4 สาเหตุ โรคใหลตาย ภาวะเฉียบพลัน ไม่มีสัญญาณเตือน ใครบ้างต้องระวัง
รู้หรือไม่? โรคใหลตาย หรือผู้ป่วยที่หลับแล้วไม่ตื่นอีกเลย ถูกสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจ หรือโครงสร้างของหัวใจมีลักษณะที่ผิดปกติ
โรคใหลตาย หรือ Sudden Unexplained Nocturnal Death syndrome (SUNDS) เป็นลักษณะอาการที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจ หรือโครงสร้างของหัวใจมีลักษณะที่ผิดปกติ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการใหลตาย
- ภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม ซึ่งมีผลต่อการเต้นของหัวใจ จนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเกิดภาวะมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
- จากการบริโภคอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อนจนเกิดการสะสม และเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากลองโควิด มีเปอร์เซ็นต์การเกิดมากน้อยแค่ไหน ?
ความเครียดก่อภาวะ Broken Heart Syndrome ภัยเงียบกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง
- ภาวะขาดวิตามินบี 1 อย่างรุนแรง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอนมากกว่าปกติ เมื่อหลับแล้วมักเกิดภาวะหัวใจวายจนเสียชีวิต
- เป็นโรคทางพันธุกรรมบางชนิด อย่าง กลุ่มอาการบรูกาดา (Brugada Syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของยีนที่สร้างโปรตีนควบคุมการไหลเข้า-ออกของโซเดียมในเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ กับอีกภาวะหนึ่ง คือความผิดปกติของไฟฟ้าหัวใจ (Long QT Syndrome)
โรคใหลตาย แม้จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบ่งชี้บางอย่างที่เหมือนเป็นการเตือนล่วงหน้า ดังนั้นหากสังเกตพบอาการผิดปกติ อย่างเช่น หมดสติขณะตื่นอยู่ เป็นลม หรือนอนอยู่แล้วหมดสติไป รวมถึงอาการเกร็งตามแขนและขา เวลาหายใจมีเสียงดังหรือเสียงเฮือกเกิดขึ้น มีอาการกระตุก ลมชัก อาการปัสสาวะและอุจจาระราด ใบหน้าและบริเวณริมฝีปากมีสีเขียวคล้ำ ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะเป็นอาการบ่งชี้ของการมีหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะใหลตายได้
ผู้ที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นโรคใหลตาย
- ผู้ที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเคยมีอาการใหลตาย หรือเคยมีอาการที่แสดงถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะมาตั้งแต่เกิด
- ผู้ที่ตรวจพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ชนิดบรูกาดา
แนวทางการปฐมพยาบาลผู้เกิดภาวะใหลตาย
นำผู้ป่วยนอนราบลงกับพื้น พร้อมประเมินผู้ป่วย หากไม่หายใจหรือไม่มีชีพจร ให้ทำ CPR ด้วยการกดบริเวณหน้าอกให้ยุบลงประมาณ 1.5 นิ้ว แล้วปล่อยให้คลายตัวเป็นชุดๆ โดยใช้ความถี่ 100 ครั้งต่อนาที และต้องทำไม่หยุดจนกว่าจะถึงมือแพทย์หรือผู้ป่วยรู้สึกตัว หัวใจกลับมาเต้น
อย่างไรก็ตามโรคดังกล่าวที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ และผู้ที่เป็นโรคนี้มักเสียชีวิตโดยไม่พบอาการผิดปกติทางสุขภาพมาก่อน ดังนั้นหากพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวเคยมีผู้เป็นโรคใหลตาย หรือมีอาการสงสัยบางประการ ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ เพื่อประเมินความเสี่ยงและหาแนวทางการป้องกันที่เหมาะสมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
"อาการใจสั่น" แบบไหนควรพบแพทย์เสี่ยงสัญญาณโรคหัวใจ
11 ความเสี่ยง “โรคหัวใจ” เช็กอาการเจ็บหน้าอกแบบไหนควรพบแพทย์
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนเชื้อเป็น (mRNA) กลุ่มวัยรุ่นชายเสี่ยงกว่า