ปัญหาสายตา สั้น-ยาว-เอียง เกิดจากอะไร? ปล่อยเอาไว้อาจเป็นปัญหาใหญ่!
ปัญหพี่พบบ่อยแทบจะทุกเพศ ทุกวัย คือการมองเห็นที่ไม่ชัดจากการมีความผิดปกติของกระจกตา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง วันนี้เราจะมาบอกถึงอาการมองไม่ชัดที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ว่าแต่ละอย่างเกิดจากสาเหตุใดในดวงตา
สายตาสั้น (Myopia)
เป็นภาวะที่กระจกตาโค้งเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป ทำให้แสงถูกหักเหและมาโฟกัสที่ด้านหน้าของจอประสาทตา แทนที่จะโฟกัสลงบนจอประสาทตา ทำให้ภาพขาดความคมชัด ผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นจะมองเห็นได้ดีที่ระยะใกล้ๆ ส่วนการมองเห็นระยะไกลจะพร่ามัว ต้องหรี่ตา หรือต้องเพ่งมากขึ้น
ภาวะสายตาสั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ
- สายตาสั้นระดับปกติ ค่าสายตาอยู่ที่ช่วงระหว่าง -0.25 ถึง -3.00 ไดออปเตอร์ หรือผู้ที่มีค่าสายตาสั้นน้อยกว่า 300 ซึ่งสายตาสั้นระดับนี้ จะไม่มีการเกิดโรคแทรกซ้อน แต่กระทบกับชีวิตประจำวัน
เล่นโทรศัพท์ในที่มืด “ตาบอด” จริงหรือไม่? แนะวิธีถนอมสายตาระยะยาว
8 เมนูอาหารบำรุงสายตา แก้ตาพร่ามัว-ลดเสี่ยงจอตาเสื่อม
- สายตาสั้นระดับมากค่าสายตาจะมีระดับที่มากกว่า - 6.00 ไดออปเตอร์ หรือผู้ที่มีค่าสายตาสั้นมากกว่า 600 ขึ้นไป ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนทางสายตาอื่นๆ เช่น โรคต้อกระจก โรคต้อหิน จอประสาทตาหลุดลอก จอประสาทตาเสื่อม เส้นเลือดงอกผิดปกติที่จอตา เป็นต้น สังเกตอาการได้จากความผิดปกติในการมองเห็น เช่น การเห็นจุดดำลอยไปมา หรืออยู่ตรงกลางภาพ มีแสงคล้ายฟ้าแลบ หรือภาพบิดเบี้ยวไป เป็นต้นจำเป็นต้องระมัดระวังและหมั่นสังเกตเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งแนะนำว่า ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหรือเข้ารับการรักษา เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะสายตาสั้น
- กรรมพันธุ์
- ส ชาวเอเชียมีโอกาสพบภาวะสายตาสั้นได้มากกว่า
- การคลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย
- การทำกิจกรรมที่ใช้สายตามากๆ อย่างเช่น การใช้คอมพิวเตอร์ หรือ การใช้สายตาจ้องสิ่งๆหนึ่งใกล้ๆเป็นระยะเวลานาน
ผู้ที่ไม่ค่อยทำกิจกรรมนอกบ้าน เนื่องจากแสงตามธรรมชาติมีส่วนช่วยกระตุ้นสาร Dopamine ในสมอง ทำให้การเจริญเติบโตของลูกตาไม่ผิดรูปไป ความเสี่ยงในการเกิดภาวะสายตาสั้นของผู้ที่ทำกิจกรรมนอกบ้านจึงน้อยกว่า
สายตายาว (Hyperopia)
เป็นภาวะที่กระจกตาแบนเกินไป หรือกระบอกตาสั้นเกินไป ทำให้แสงถูกหักเหไปโฟกัสที่ด้านหลังของจอประสาทตา ทำให้ภาพมัว ผู้ที่มีภาวะสายตายาวจะมีการมองเห็นได้ดีที่ระยะไกลๆ มากกว่าการมองระยะใกล้ อาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ปวดตา โดยเฉพาะเวลามองวัตถุในระยะใกล้
แบ่งสายตายาวออกเป็น 2 อย่าง
- สายตายาวโดยกำเนิด (Farsightedness) เป็นปัญหาสายตายาวที่เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก และมักจะเป็นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากวัยเด็ก เป็นวัยที่กล้ามเนื้อตามีความยืดหยุ่นได้ดี ทำให้มีส่วนช่วยในการเพ่งสายตา จึงไม่ค่อยมีผลกระทบต่อภาพที่เห็นมากนัก แต่เมื่อเริ่มโตขึ้น กล้ามเนื้อตาค่อยๆเสื่อมลง ทำให้อาการสายตายาวโดยกำเนิด ค่อยๆปรากฏออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น หากเด็กมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น มีอาการคล้ายตาเข เมื่ออ่านหนังสือ เขียน หรือวาดภาพไปสักระยะหนึ่งแล้ว เริ่มมีอาการปวดหัว ปวดตา ตาล้า ขาดความสนใจในการทำสิ่งต่างๆ หรือขยี้ตาบ่อยๆ ก็ควรเข้ารับการตรวจตา เพื่อวินิจฉัยอาการที่เกิดขึ้น
- สายตายาวตามวัย (Presbyopia)
โดยปกติจะเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป โดยค่าสายตายาวจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามอายุ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อรอบๆ เลนส์ตา (Ciliary Muscle) เสื่อมลง เลนส์ตาโป่งออกได้น้อยลง ทำให้โฟกัสระยะใกล้ไม่ได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงสายตาตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อาการจะมากขึ้นหรือเสื่อมถอยตามวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่สายตาดีมาตลอดชีวิต หรืออาจเกิดร่วมกันในผู้ที่มีสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงมาก่อนแล้ว
ปัญหาสายตายาว อาจนำมาซึ่งผลกระทบ อาทิภาวะตาขี้เกียจ ภาวะตาเหล่ พัฒนาการล่าช้า เกิดปัญหาทางการเรียนรู้ได้
“มะเร็งตา” พบได้บ่อยในเด็กเล็กเจอเร็วหายได้ ไม่ต้องควักลูกตาเพื่อรักษา
สายตาเอียง (Astigmatism)
เป็นภาวะที่กระจกตามีความโค้งไม่เท่ากันในแต่ละแกน ทำให้เกิดจุดโฟกัส 2 จุด ไม่รวมเป็นภาพเดียว มีจุดหนึ่งโฟกัสที่ก่อนหรือหลังจอประสาทตา ผู้ที่มีภาวะสายตาเอียงจะมีการมองเห็นพร่ามัวทั้งระยะไกลและใกล้
ปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะสายตาเอียง
- ผู้ที่มีอาการตาเหล่
- การมีรอยแผลเป็นบริเวณกระจกตา อันเนื่องมาจากการติดเชื้อหรือการอักเสบ
- การประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา
- อาการบาดเจ็บหลังเข้ารับการผ่าตัดดวงตา
- พันธุกรรม
- ผู้ที่เป็นโรคกระจกตาย้วย(Keratoconus) ทำให้กระจกตาเปลี่ยนเป็นรูปทรงกรวย
สายตาเอียงมักมีอาการตาล้า ปวดตา เมื่อต้องทำกิจกรรมบางอย่างที่มีการเพ่งสายตาหรือทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น การอ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ มีอาการตาเหล่ การมองเห็นพร่ามัว เบลอ ไม่ชัดเจน เกิดเงาซ้อน หรือภาพบิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริงในทุกระยะการมองเห็น เกิดอาการปวดหัว ระคายเคืองตา เนื่องจากการใช้สายตา หรือภาพการมองเห็น มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถยนต์ในตอนกลางคืน การอ่านป้ายจราจร การมองตัวเลข ตัวอักษร ซึ่งปกติแล้วอาการตาเอียงมักมาพร้อมกับปัญหาด้านสุขภาพตาอื่นๆ
ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหากับดวงตา สายตา หรือการมองเห็นที่ผิดปกติไป ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ตรงจุด ก่อนที่โรคหรืออาการจะลุกลามจนยากเกินแก้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช และ โรงพยาบาลพญาไท
“เบาหวานขึ้นตา” ภาวะแทรกซ้อนอันตราย เสี่ยงตาบอด แนะสัญญาณเตือนรีบพบแพทย์
อาหารบำรุงประสาทตาลดเสี่ยงต้อกระจก ส่งเสริมการมองเห็นให้ดีขึ้น