เห็นจุดสีดำอาจ"จอประสาทตาเสื่อม" โรคที่ผู้สูงอายุต้องระวังเสี่ยงตาบอด
ดวงตา เป็นอวัยวะที่สำคัญมาก แต่หลายคนมองข้าม เพราะมองว่าแค่มองไม่ชัดก็ใส่แว่นไป แต่แค่สัญญาณเตือนเล็กๆน้อยๆนั้น อาจเป็นโรคอันตรายที่เสี่ยงสูญเสียการมองเห็นได้หากรักษาไม่ทัน
จอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) คือโรคที่เกิดจากจอประสาทตาในลูกตาเสื่อมสภาพ จนไม่สามารถรับภาพได้ดีเท่าเดิม โรคจอประสาทตาเสื่อมนี้จะทำให้การมองเห็นแย่ลงเรื่อยๆ มองภาพบิดเบี้ยว มองเห็นสีได้น้อยลง การมองเห็นช่วงกลางภาพหายไป เมื่อถึงจุดหนึ่งจะสูญเสียการมองเห็นส่วนใหญ่ไปในที่สุด มักเกิดกับผู้สูงอายุที่มากกว่า 50 ปี สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคมาจากความเสื่อมของอวัยวะตามอายุ หรือมีญาติสายตรงเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือมีความดันโลหิตสูง
แดดร้อนจัดทำลายดวงตา เสี่ยงกระจกตาเสื่อม-ริ้วรอยร่องลึก แนะวิธีถนอมสายตา
ปัญหาสายตา สั้น-ยาว-เอียง เกิดจากอะไร? ปล่อยเอาไว้อาจเป็นปัญหาใหญ่!
จอประสาทตาเสื่อมพบได้ 2 ประเภท
- แบบแห้ง เป็นแบบที่พบมากที่สุด สาเหตุคือจอประสาทตาส่วนกลางเสื่อมและบางลงอย่างช้าๆ ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง จนกระทั่งในบางรายอาจพัฒนาไปเป็นการเสื่อม
- แบบเปียก ได้ ที่จะพบเพียง10-15% ของคนที่เป็นโรคประสาทตาเสื่อม เกิดจากมีเส้นเลือดผิดปกติงอกอยู่ใต้จอประสาทตา และมีการรั่วซึมของเลือดและของเหลวเข้าไปในชั้นของจอประสาทตาส่งผลกระทบกับการทำงานของจอประสาทตา ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าจอประสาทตาเสื่อมเกิดจากอะไร แต่ผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมมักจะมีปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน ดังนี้
- อายุ จอประสาทตาเสื่อมพบมากในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- ส่งต่อทางพันธุกรรมได้ทั้งชนิดแห้งและชนิดเปียก
- เชื้อชาติ จอประสาทตาเสื่อมจะพบในคนเชื้อชาติคอเคเซียน (Caucasians) หรือที่เรียกว่าคนผิวขาว ได้มากกว่าเชื้อชาติอื่นๆ
- การสูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคได้มาก
- โรคเบาหวาน มักทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจอประสามตาเสื่อมชนิดเปียกได้มาก
- โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิด และไขมันในเลือด ซึ่งปัจจัยทั้งสองอย่างเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียกได้มากเช่นเดียวกัน
สัญญาณเตือน โรคจอประสาทตาเสื่อม
- มองไม่ชัดตอนกลางคืน หรือสายตาปรับเข้ากับความมืดไม่ได้
- มองภาพตรงกลางไม่ชัด เห็นเป็นจุดดำหรือวงสีเทาตรงกลางภาพ
- ภาพที่เป็นมีความบิดเบี้ยว มัว หรือ เบลอ
“มะเร็งตา” พบได้บ่อยในเด็กเล็กเจอเร็วหายได้ ไม่ต้องควักลูกตาเพื่อรักษา
อาการจอประสาทตาเสื่อม
- การมองเห็นแย่ลง โดยเฉพาะส่วนกลางภาพ จะเห็นเป็นภาพเบลอหรือเห็นเป็นสีเทาดำมืดไปเลย อาจจะเกิดขึ้นกับตาข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้
- ภาพการมองเห็นบิดเบี้ยวผิดรูป
- ต้องใช้แสงสว่างมากกว่าปกติเพื่อให้มองเห็นชัด และมองเห็นได้น้อยลงเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
- ต้องใช้แสงมากขึ้นเพื่อมองเห็นสี
- แยกใบหน้าได้น้อยลง เนื่องจากภาพการมองเห็นไม่ชัดเท่าเดิม
- อ่านหนังสือยากขึ้น
อาการจอประสาทตาเสื่อมทั้งชนิดเปียกและชนิดแห้ง ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่อาการของโรคในชนิดเปียกจะเกิดขึ้นรุนแรง และรวดเร็วกว่าชนิดแห้ง ผู้ที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียกมีโอกาสสูญเสียการมองเห็นเกือบทั้งหมดได้หากไม่รีบรักษา
เกร็ดความรู้ : โรคจอประสาทตาเสื่อม ไม่ได้เกิดจาก การใช้สายตามากเกินไป การเล่นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ในที่มืด หรือแสงยูวีจากแดด แต่สาเหตุที่กล่าวมาทำให้เกิดปัญหาดวงตาอื่นๆ เช่นต้อดวงตาได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช และ โรงพยาบาลพญาไท
“เบาหวานขึ้นตา” ภาวะแทรกซ้อนอันตราย เสี่ยงตาบอด แนะสัญญาณเตือนรีบพบแพทย์