4 เรื่องต้องรู้ เกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง สมองไม่มีต่อมยังเป็นได้!
ทำไมเราต้องรู้เท่าทันสัญญาณเตือนมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพราะเป็นโรคที่มีสาเหตุที่แน่ชัด อีกทั้งอวัยวะที่ไม่มีต่อมน้ำเหลืองก็เป็นได้
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อีกหนึ่งโรคร้ายที่ไร้อาการเตือนแน่ชัดเมื่อเป็นในระยะเริ่มต้น รวมทั้งยังสามารถแพร่กระจายออกนอกระบบต่อมน้ำเหลืองไปยังสมอง ตับ หรือปอดของเราได้ และนี่คือเหตุผลหลักๆ ที่ว่า... ทำไม? เราควรทำความรู้จักกับโรคร้ายนี้ไว้ เพราะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองน่ากลัวกว่าที่คิด!
4 เรื่องต้องรู้มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- สัญญาณแรกของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง สัญญาณเตือนที่เห็นเด่นชัด ก็คือการคลำพบก้อนบริเวณข้างลำคอ รักแร้ เต้านมหรือขาหนีบ โดยก้อนที่คลำพบนี้จะไม่มีอาการเจ็บใดๆ
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เช็กความรุนแรงละเลยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 2 ปี
คันยุบยิบ 1 ใน สัญญาณมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดดุโตไวเสี่ยงไตวาย
- “สมอง” ไม่มีต่อมน้ำเหลือง แต่ก็เสี่ยงได้
ไม่ว่าจะ “คอ” “ช่องท้อง” หรือ “สมอง” ก็สามารถเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้! เพราะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองไม่เพียงแค่เกิดขึ้นบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่มีอยู่ทั่วร่างกาย แต่ยังสามารถแพร่กระจายผ่านทางเลือด...ออกนอกระบบต่อมน้ำเหลืองได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ “สมอง”แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในกระดูก ตับ หรือปอด ได้เหมือนกัน
- อาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์
นอกจากการพบก้อนแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ที่สังเกตได้ เช่น อาการไอเรื้อรัง เจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบาก มีไข้ ต่อมทอนซิลโต เหงื่อออกง่าย คันตามร่างกาย น้ำหนักลด ปวดศีรษะ อาหารไม่ย่อย หรือแขนขาชาอ่อนแรง
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไม่เพียงไม่แสดงอาการที่เฉพาะเจาะจง แต่ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด! ดังนั้น หากพบอาการผิดปกติข้างต้น หรือหลังทานยาแล้วไม่ดีขึ้น อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะมะเร็งต่อมน้ำเหลือง..เป็นโรคมะเร็งที่สามารถรักษาได้ หากพบเร็ว!
“ตาโปน” แบบไหน ? สัญญาณเตือนโรค ไทรอยด์เป็นพิษ-มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อย่างไรก็ตามการรักษา มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ การให้ยาเคมีบำบัด จะเป็นวิธีการรักษาที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ก็ยังมีแนวทางการรักษาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การฉายรังสี การรักษาด้วยแอนติบอดี หรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (Stem Cell Transplantation)ไม่เพียงแค่เรื่อง “สุขภาพจิตที่ดี” ที่เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องควบคู่ไปกับการทานอาหารที่สะอาดและทำสุกใหม่ๆ ออกกำลังกายเบาๆ เท่าที่ทนได้ ใส่ใจในการรักษาความสะอาดช่องปาก ผิวหนัง (โดยเฉพาะจุดอับชื้น) ทวารหนัก (หลังขับถ่าย) และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการดูแลสุขภาพกายและใจ.. จะช่วยให้ผลการรักษามะเร็งร้ายมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
“คลำก้อนที่คอ” เจ็บหรือไม่เจ็บ แบบไหนอันตรายกว่ากัน?
คุณหมอผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แชร์เทคนิคกินอาหารแบบไหน? อะไรควรเลี่ยง?