รวมเทคนิคผ่าตัดรักษาไทรอยด์-สัญญาณแพทย์พิจารณาถึงการผ่าตัด
การผ่าตัดไทรอยด์นับเป็นการรักษาไทรอยด์หนทางสุดท้ายที่แพทย์จะพิจารณาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเมื่อผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา รวมเทคนิคผ่าตัดต่อมไทรอยด์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดการบาดเจ็บลดเวลาการรักษาตัวหายขาดและหายเร็ว
ต่อมไทรอยด์ เป็นอีกหนึ่งต่อมไร้ท่อที่สำคัญต่อร่างกาย หากมีภาวะและความผิดปกติได้หลายประเภท เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ โรคต่อมไทรอยด์อักเสบ โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ โรคคอพอก ซึ่ง หากมีการตรวจพบรอยโรคแล้ว ทางแพทย์ก็จะมีการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับร่างกายของผู้ป่วยและตำแหน่งที่เกิดขึ้นกับต่อมไทรอยด์ต่อไป ซึ่งหากความผิดปกติยังไม่ถึงขั้นระดับรุนแรง ก็มักจะเริ่มต้นการรักษาด้วยวิธีการทานยาก่อน
“ไทรอยด์”เชื่อมโยงระบบเผาผลาญ เช็กความผิดปกติน้ำหนักก่อนอันตรายถึงชีวิต
รู้จัก “ผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้อง” แผลเล็ก-ลดภาวะแทรกซ้อน
หากทานยาแล้วยังไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนได้ ไทรอยด์โตขึ้น หรือภาวะที่ต่อมไทรอยด์มีความพยาธิสภาพรุนแรงกว่าเดิม ไม่ตอบสนองต่อการักษาด้วยยาหรือการกลืนแร่ แพทย์จะพิจารณารักษาโดยการผ่าตัด
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด
- ผลเจาะดูดชิ้นเนื้อพบว่าเป็นโรคมะเร็งไทรอยด์
- ผลเจาะดูดเนื้อพบลักษณะเซลล์ที่ผิดปกติแบบก้ำกึ่ง ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็ง
- ผลเจาะดูดชิ้นเนื้อพบว่าเป็นเนื้องอกชนิดดี แต่ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ 2-4 ซม. ขึ้นไป หรือมีจำนวนหลายก้อน และมีอาการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น หลอดอาหาร หลอดลม เป็นต้น
เทคนิคการผ่าตัดไทรอยด์ แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
- การผ่าตัดไทรอยด์แบบแผลเปิด เป็นการผ่าตัดแบบมาตรฐานดั้งเดิมที่มีการใช้กันมานานแล้ว โดยทางแพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณกลางลำคอของผู้ป่วย หลังจากนั้นก็จะนำเครื่องมือเข้าไปทำการรักษาหรือตัดก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์ออกมา โดยเทคนิคนี้สามารถผ่าตัดก้อนเนื้องอกได้ทุกขนาด แต่อาจจะมีผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้เนื่องจากจะมีขนาดรอยแผลอยู่ที่บริเวณกลางลำคอ
- การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้อง เป็นเทคนิคการผ่าตัดในรูปแบบใหม่โดยการใช้กล้องผ่าตัดขนาดเล็กเข้ามาเป็นตัวช่วยในการผ่าตัด ซึ่งมีจุดเด่นก็คือมีความแม่นยำ ตรงจุด และแพทย์ไม่จำเป็นต้องกรีดเปิดแผลที่ผิวหนังด้านนอก แต่สามารถเลือกกรีดเปิดแผลตรงบริเวณอื่น เช่น การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ผ่านกล้อง สามารถทาได้หลายวิธี เช่น การผ่าตัดผ่านกล้องทางรักแร้ (Axillary approach) ทางหน้าอก (Chest approach) และทางเต้านม (Breast approach) เป็นต้น การผ่าตัดดังกล่าว สามารถตัดต่อมไทรอยด์ได้ท้ังแบบการผ่าตัดออกข้างเดียว (Lobectomy, Hemithyroidectomy) และแบบ ผ่าตัดออกหมด (Total thyroidectomy) ข้อจำกัดของการผ่าตัดด้วยวิธีดังกล่าว คือ ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด จำเป็นต้องเลาะเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนังตั้งแต่บริเวณแผลผ่าตัดไปจนถึงต่อมไทรอยด์บริเวณคอ (Remote access) ซึ่งอาจทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนังหลังผ่าตัดได้มาก และยังอาจเกิดแผลเป็นคีลอยด์บริเวณแผลผ่าตัดใน ผู้ป่วยบางรายได้อีกด้วย
- การผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปาก Transoral Endoscopic Thyroidectomy Vestibular Approach (TOETVA) เป็นการผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องเทคนิคใหม่ ผู้ป่วยจะไม่มีแผลเป็นให้เห็นจากภายนอก มีเพียงแผลผ่าตัดเล็กขนาด ประมาณ 2 ซม. และ 0.5 ซม. ที่เยื่อบุริมฝีปากทางด้านล่าง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัดหายเร็ว สามารถผ่าตัดทั้ง 2 ข้างออกได้พร้อมกัน รวมไปถึงสามารถเห็นเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงสายเสียงได้อย่างชัดเจน ทำให้การผ่าตัดด้วยวิธีนี้จึงให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี และมีความปลอดภัย เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ในการผ่าตัดที่ดี ไร้แผลเป็นจากการผ่าตัด ทาให้มีผู้ป่วยทั่วโลกได้รับการผ่าตัดด้วยวิธีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน ระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดไทรอยด์
หากแพทย์ได้ทำการพิจารณาแล้วว่าควรใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาไทรอยด์ แพทย์ก็จะมีการแนะนำการเตรียมตัวก่อนถึงวันนัดผ่าตัด ซึ่งในผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีคำแนะนำในการเตรียมตัวที่ต่างกันออกไป แต่หลักๆ แล้วอาจมีดังนี้
- ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องมีการแจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว ยาประจำตัวที่กินอยู่ในปัจจุบันรวมไปถึงวิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรบำรุงสุขภาพทุกชนิด เพราะอาจจะต้องมีการงดยาล่วงหน้า ก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะกลุ่มยาละลายลิ่มเลือดหนือมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนการผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการระบุรายการตรวจสุขภาพที่จำเป็นให้แก่ผู้ป่วยเอง เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจเอกซเรย์ปอด ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะ
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดไทรอยด์
- รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น ซุป โจ๊ก ข้าวต้ม ในช่วง 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- รับประทานยาปฏิชีวนะจนครบ 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการไอ จาม เบ่งถ่าย การออกกำลังกายหรือการออกแรงยกของหนัก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- เริ่มทำการบริหารรอบปากและลำคอหลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์
“ไทรอยด์เป็นพิษ”หยุดยาเองเสี่ยงกลับมาเป็นซ้ำ! เหตุผลกินยาแล้วคอโตขึ้น
การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ได้มีการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัยเข้ามาเป็นตัวช่วยในการผ่าตัดรักษาให้มีความแม่นยำ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
- อุปกรณ์ผ่าตัดผ่านกล้องปิดหลอดเลือดและตัดเนื้อเยื่อโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ (Harmonic energy device) ที่สามารถทำการซีลปิดหลอดเลือดหยุดเลือดและการผ่าตัดแยกเยื่อหุ้มไทรอยด์กับกล้ามเนื้อข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้สารเรืองแสงทางการแพทย์ Indocyanine green (ICG) fluorescence ร่วมกับกล้องผ่าตัดที่สามารถเห็นสี ICGทางหลอดเลือดที่มาเลี้ยงต่อมพาราไทรอยด์ช่วยลดการบาดเจ็บและขาดเลือดของต่อมพาราไทรอยด์ในขณะผ่าตัดไทรอยด์ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ลดโอกาสเกิดภาวะพาราไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำหลังผ่าตัดและลดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำหลังผ่าตัดไทรอยด์ออกทั้งหมด
- การใช้อุปกรณ์Nerve Monitoring System ซึ่งเป็นเครื่องผ่าตัดตรวจวัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกล่องเสียง(Recurrent laryngeal nerve)
ทำให้ลดการบาดเจ็บทั้งการที่เส้นประสาทถูกตัดขาดและเส้นประสาทช้ำหลังผ่าตัดได้ดียิ่งขึ้น โดยรวมจากเทคโนโลยีดังกล่าวข้างต้นร่วมกับการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการผ่าตัด ทำให้ผลลัพธ์การผ่าตัดดี ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก ฉะนั้นหากมีอาการสุ่มเสี่ยงรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเพราะโรคดังกล่าวสามารถทำให้เสียชีวิตได้หากรักษาไม่ทันท้วงที
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
ภาพจาก : Shutterstock gettyimages
ซึมเศร้าจากไทรอยด์เป็นพิษ งานวิจัยเผยเกิดในเพศหญิงมากกว่าชายหลายเท่า
เช็กอาการ 6 โรคต่อมไทรอยด์ อย่ามองข้ามก้อนที่คอ อาจเป็นพิษลุกลามรุนแรง