สุขภาพดีรับปีใหม่! รู้จักการ “คูลดาวน์” หลังออกกำลังกายให้ถูกต้อง!
เริ่มออกกำลังกาย เท่ากับ เริ่มสุขภาพที่ดี! ให้ปีใหม่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตยืนยาว วิธี เตรียมร่างกาย ช่วงเวลาออกกำลังกายและคูลดาวน์อย่างถูกต้อง!
ปีใหม่นี้ เริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองได้ ด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี หาเวลาเพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมงในการพัฒนาตัวเองเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะการทำงานของหัวใจที่จะมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักการการออกกำลังกายง่ายๆ แต่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ช่วยต่อต้านโรค และภาวะสุขภาพต่าง ๆ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศส่งเสริมให้กำลังวังชาดีขึ้น ทั้งในด้านความแข็งแรงและความทนทาน อีกทั้งยังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น เพราะเป็นการกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองที่ส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขมากกว่าเดิม
5 เหตุผล ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ เปลี่ยนความคิด สร้างสุขภาพดีที่ด้วยตัวคุณ
เทคนิค "กระโดดเชือก" อย่างถูกต้อง หนีโรคหัวใจ ช่วยระบบหมุนเวียนโลหิต

เชื่อว่าทุกคนคงรู้ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นอย่างดีแต่ไม่มีโอกาสได้เริ่มงั้นปีใหม่นี้เริ่มเลยสุขภาพดีเลย!
วิธีออกกำลังกายให้สุขภาพดีมากขึ้น
- Warm Up 5 นาที
ช่วงเวลาของการอบอุ่นร่างกายให้ได้ปรับอุณหภูมิ ยืดกล้ามเนื้อ และกระตุ้นกล้ามเนื้อ หลอดเลือดให้ขยายตัว และเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกแรงอย่างเต็มที่ ด้วยการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างช้าๆ ด้วยการเดินหรือเหวี่ยงแขนเบาๆ เป็นเวลา 5 - 10 นาที
- Exercise 30 – 60 นาที
การออกกำลังกายที่กระตุ้นให้ร่างกายได้ใช้ก๊าซออกซิเจนไปช่วยในการเผาผลาญไขมันไปใช้เป็นพลังงาน เป็นการออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป มีความต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที สำหรับการลดความอ้วนควรออกกำลังกายมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป เพราะในนาทีที่ 1-30 ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานสะสมที่กล้ามเนื้อและตับ (ไกลโคเจน) หลังจากนาทีที่ 30 ร่างกายจะเริ่มนำไขมันมาเผาผลาญ การออกกำลังกายวันละ 10-15 นาที ไม่ช่วยเผาผลาญไขมัน หลายคนจึงเกิดการท้อแท้ เพราะออกกำลังกายไม่ถึง 30 นาที แล้วกลับไปรับประทานอาหารอย่างเต็มที่ โดยคิดว่าได้ลดไขมันไปบ้างแล้ว
- Cool Down 5 นาที
การลดอุณหภูมิร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ รวมไปจนถึง กล้ามเนื้อ หลอดเลือด และส่วนต่างๆ ที่ ได้รับการกระตุ้นให้ออกแรงอย่างหนักการจากออกกำลังให้ กลับคืนสู่สภาพเดิม การ Cool Down มีผลดี เพราะสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อต่างๆ หลังจากออกกำลังกายได้ด้วย
ออกกำลัง “คาร์ดิโอ” ช่วยชีวิตคุณได้! กระตุ้นหัวใจ-ปอดลดเสี่ยงโรคNCDs
รู้หรือไม่ ? การออกกำลังกาย ด้วยการออกวิ่งไปเลยติดต่อกัน 30 นาที หรือ วิ่งๆ หยุดๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพเลย โดยปกติแล้วหัวใจของมนุษย์ทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ จะเต้นอยู่ที่ราวๆ 70 ครั้งต่อนาที ลองนึกตามว่าถ้าเราไม่มีการอบอุ่นร่างกาย หัวใจที่เต้นอยู่ที่ 70 ครั้งต่อนาที และไปออกกำลังกายทันที ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจกระโดดขึ้นไปเป็น 150-160 ครั้งต่อนาที ภายในเวลาชั่วขณะ หัวใจจะต้องทำงานหนักมาก หลอดเลือดขยายไม่ทัน และระบบต่างๆ ในร่างกายก็อาจจะไม่พร้อมรับมือกับการออกกำลังกายในครั้งนี้ เพราะขณะที่เราออกกำลังกายอย่างหนักนั้น กล้ามเนื้อจะมีการดึงเอาออกซิเจนมาใช้เป็นพลังงานในการเคลื่อนไหว และก่อให้เกิดกรดแลคติก (Lactic Acid) ที่เป็นของเสียจากกระบวนการดึงเอาพลังงานมาใช้ ซึ่งกรดดังกล่าวเมื่อมีมากในกล้ามเนื้อจะส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้า และถ้ามีมากจนร่างกายรับไม่ไหวก็อาจทำให้เกิดตะคริวได้ แต่กรดแลคติกจะสามารถสลายตัวได้เมื่อกล้ามเนื้อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ
ดังนั้นการคูลดาวน์นอกจากจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีแล้ว ยังทำให้กรดแลคติกในกล้ามเนื้อ ตัวการที่ทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อค่อยๆ สลายไป เนื่องจากออกซิเจนในเลือดสามารถไหลมาหล่อเลี้ยงได้เต็มที่ และลดโอกาสที่จะปวดกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
วิจัยสูงวัย“เนือยนิ่งทอดหุ่ย” เสี่ยงสมองเสื่อม แนะออกกำลังกายช่วยได้!
5 ท่าออกกำลังกายบริหารลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยเรื่องขับถ่าย