"อากาศร้อนจัด" กระตุ้นปวดหัว แนะพักผ่อนให้เพียงพอผ่อนคลายความเครียด
ปวดหัว ปัญหาเล็กๆที่ถูกกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมได้หลากหลาย หากรู้จักสาเหตุก็จะรู้วิธีแก้เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
แม้ว่าอาการปวดหัวจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันไม่น้อย เพราะนอกจากผลกระทบจากโรคภัยทางสมองแล้ว บางคนอาจเกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งสังเกตได้จาก บางคนอาจไม่ได้ปวดรุนแรงแต่ออกแนวน่ารำคาญ บางคนปวดเบ้าตา ปวดขมับ ปวดท้ายทอยส่งผลให้ทำงานต่อไม่ได้เลยทีเดียว จริงๆ แล้วอาการปวดหัวเหล่านี้อาจเกิดมาจากเรื่องเล็กน้อยใกล้ตัวที่เราทำจนเคยชิน
เช็ก! อาการปวดหัวอันตราย - วิธีแก้เบื้องต้นด้วยตัวเอง เลี่ยงกินยาพร่ำเพรื่อ
"เหงื่อออกตอนกลางคืน" ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม อาจเป็นสัญญาณบอกโรค!
Freepik/ creativeart
ปวดหัว

ปัจจัยกระตุ้นให้ปวดหัวง่าย
- เครียดบ่อยเกินไป
หากสังเกตดีๆ เมื่อไหร่ที่เครียดจะรู้สึกปวดหัวหนักๆ ที่ขมับทั้งสองข้าง ปวดตื้อๆ บางคนอาจปวดต้นคอ ไหล่ และหลังร่วมด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าคุณกำลังอยู่ในความเครียด กดดัน หรือวิตกกังวล ลองผ่อนคลายด้วยการหากิจกรรมทำดูรับรองหายได้แน่นอน
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
นอนไม่พอส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวตุบๆ ได้ในตอนเช้า นอกจากนี้ยังทำให้รู้สึกไม่อยากตื่น อ่อนเพลีย ตื่นเช้ามาไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า อาจนำมาซึ่งความเครียด หงุดหงิดง่ายอีกด้วย ทางทีดีควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
- อากาศร้อนอบอ้าว
จริงๆ แล้วอากาศเป็นตัวกระตุ้นการปวดศีรษะชั้นดีเลยทีเดียว เพราะเมื่ออากาศร้อนขึ้น ความชื้นและความดันเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสร้างสารเคมีในสมองซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะได้
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
เพราะฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนในช่วงมีรอบเดือน สาวๆ หลายคนมักมีอาการปวดศีรษะช่วงมีประจำเดือน นั่นก็เพราะว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการลดระดับลง ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ
- กินอาหารจำพวกเนยแข็ง ช็อกโกแลต อาหารรสจัด
เรียกได้ว่าอาหารเป็นส่วนสำคัญที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ ซึ่งอาหารเหล่านี้หากทานในปริมาณมากๆ ก็ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ เช่น เนยแข็ง ช็อกโกแลต หอมหัวใหญ่ อาหารที่มีรสเค็ม และใส่ผงชูรส อาจทำให้บางคนปวดศีรษะได้เช่นกัน
อากาศร้อนเสี่ยง “ฮีทสโตรก” ภาวะอันตรายเสี่ยงเสียชีวิตเฉียบพลันได้!
- การออกกำลังกายมากเกินไป
จริงอยู่ที่การออกกำลังกายนั้นดีต่อสุขภาพแต่การหักโหมมากเกินพอดีก็ทำให้สุขภาพแย่ลง แถมยังทำให้ปวดศีรษะได้ เพราะการออกกำลังกายจะเพิ่มเลือดไหลเวียนไปที่ศีรษะและคอ หากออกกำลังมากเกินไปอาจส่งผลให้เส้นเลือดบวมกระตุ้นอาการปวดศีรษะได้ ดังนั้นควรออกกำลังกายแต่พอดีเพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียดได้อีกด้วย
- ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
คนทำงานออฟฟิศ โดยไม่พักสายตา มักมีอาการหนักหัว ปวดกระบอกตา ซึ่งอาการส่วนใหญ่มักแสดงให้เห็นช่วงบ่ายหรือใกล้เลิกงาน เนื่องจากใช้สายตามาทั้งวัน บางคนอาจรู้สึกเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย แนะนำว่าควรพักสายตาทุกๆ 20-30 นาที และเปลี่ยนอริยาบถบ่อยๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
- จ้องโทรศัพท์มากเกินไป
การเล่นโทรศัพท์มือถือหลายชั่วโมง ทำให้ต้องเกร็งดวงตาและสายตา ส่งผลให้ปวดหัวหรือปวดกระบอกตาได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อคอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดหัวได้นั่นเอง ดังนั้นจึงควรพักสายตาจากการจ้องอุปกรณ์เหล่านี้ทุก 10-15 นาที กะพริบตาให้บ่อยขึ้น มองออกไปนอกหน้าต่าง ให้ดวงตาได้พักบ้าง
อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน บางครั้งอาการปวดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถหายได้เองในระยะเวลาไม่นาน แต่เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติก็ไม่ควรละเลย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่นๆ ตามมา
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
เทคนิคดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าร้อน อะไรควรทำ ? อะไรควรเลี่ยง
หน้าร้อน “นอนตากลม” ควบคุมอุณหภูมิห้องไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อสุขภาพ