กินของหวานก่อนนอน เสี่ยงแก่เร็ว ฝันร้าย บั่นทอนสุขภาพ!
ปัญหาการนอน เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งการกินอาหารก่อนนอนเป็นเรื่องต้องห้าม โดยเฉพาะขนมหวาน เพราะนอกจากจะบั่นทอนสุขภาพแล้วยังทำให้ฝันร้ายด้วย!
ของหวาน เพิ่มความสดชื่น ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ แต่การกินบ่อยๆย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ยิ่งกินก่อนนอน ยิ่งแย่เพราะนอกจากน้ำหนักตัวจะขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อสุขภาพอีกมากมาย!
กินของหวานก่อนนอนเสี่ยงอะไรบ้าง ?
- น้ำตาลทำแก่เร็ว
น้ำตาลเป็นตัวการทำให้หน้าแก่เร็วขึ้น เพราะน้ำตาลที่ได้จากอาหารไม่ว่าจะได้จากไอศกรีม ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือแม้แต่อาหารประเภทแป้งที่จะถูกย่อยไปเป็นน้ำตาลในท้ายที่สุด
3 อาการสัญญาณปัญหาการนอน สาเหตุนอนเยอะแต่ยังง่วง!
วิจัยเผย! นอนมากหรือน้อยกว่า 8 ชม. เพิ่มความเสี่ยงสมองเสื่อม

สารในน้ำตาลที่ร่างกายได้รับจะไปขัดขวางการหลั่งของโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูร่างกายในช่วงที่เรานอนหลับ ทำให้การซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ ความเยาว์วัยที่ควรจะได้รับการฟื้นฟูจากกลไกของร่างกายเลยไม่ได้รับการดูแลไปด้วย
นอกจากนี้น้ำตาล ยังมีส่วนทำให้เซลล์ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เนื่องจากโครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังถูกสารในน้ำตาล ทำลายโอกาสที่ผิวจะเหี่ยวก่อนวัยก็ย่อมมีมากขึ้น
- น้ำตาลทำอ้วนขึ้น
หนึ่งในอาหารทำลายสุขภาพคือของหวาน ขนม นม เนย อยู่ในลิสต์ของกินชวนอ้วนในลำดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ และเราก็เชื่อว่าทุกคนรู้ดีค่ะว่า หากเรากินอาหารแคลอรีสูงก่อนเข้านอนจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานจากของหวานที่เพิ่งกินเข้าไปไม่หมด กลายเป็นไขมันและน้ำตาลสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น
- น้ำตาลในเลือดสูง
เสี่ยงเบาหวาน การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน ไอศกรีม ขนมหวาน หรือช็อกโกแลตก่อนนอน รวมไปถึงอาหารประเภทแป้งอย่างขนมปังทั้งหลายด้วยนะคะ อาหารน้ำตาลสูงเหล่านี้จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้ทันทีที่กินเข้าไป เนื่องจากเป็นน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที
ส่วนคนที่ยังไม่เป็นโรคเบาหวาน พฤติกรรมกินขนมหวานก่อนนอนก็อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคนี้ให้คุณได้เช่นกัน เนื่องจากเมื่อร่างกายมีปริมาณน้ำตาลมาก ๆ อินซูลินจะหลั่งออกมาเพื่อจัดการน้ำตาลเหล่านี้ในร่างกาย ยิ่งมีน้ำตาลมาก อินซูลินก็ยิ่งหลั่งมากจนในที่สุดการทำงานของอินซูลินก็จะแปรปรวน นำไปสู่โรคเบาหวานในท้ายที่สุด
- เสี่ยงกรดไหลย้อน
กินแล้วนอน พฤติกรรมนี้สุ่มเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนหนักมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบกินอาหารไขมันสูง หรืออาหารที่มีแก๊สสูงอย่างน้ำอัดลม ก็จะยิ่งก่ออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเพิ่มกรดให้กระเพาะอาหารมากขึ้น
- กินหวานทำนอนไม่หลับ
การนอนหลับจะเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อน นั่นหมายความว่าระบบการทำงานของร่างกายจะทำงานช้าลง แต่หากเรากินอาหารอะไรเข้าไปก่อนจะนอน สิ่งที่ไม่ได้พักผ่อนก็คือระบบย่อยอาหารของเราเองนี่แหละค่ะ และเมื่อระบบย่อยอาหารกำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง กระบวนการนี้ก็จะก่อให้เกิดพลังงานและคลื่นความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้เรานอนหลับไม่สบาย นอนหลับกระสับกระส่ายไปทั้งคืน
วิจัยพบนอนน้อยไปเสี่ยงหัวใจโต นอนมากไปก็ไม่ดีแนะตรวจเช็กสุขภาพ!
- ของหวานทำฝันร้าย
การกินอาหารน้ำตาลสูง ไขมันสูง ซึ่งต้องทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานในช่วงที่ควรพักผ่อน ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบให้เรานอนไม่หลับเท่านั้น แต่มีส่วนสร้างฝันร้าย เพราะสมองที่ต้องสั่งการให้ระบบย่อยอาหารทำงาน ก่อให้เกิดอาการนอนไม่หลับ นอนกระสับกระส่าย หรือบางคนอาจจะรู้สึกร้อน ๆ ตอนนอน ความนอนไม่สบาย จะทำให้เราฝันร้ายเป็นตุเป็นตะขึ้นมาได้
หากใครชอบกินของหวานก่อนนอน และคิดว่ากินไม่บ่อยคงไม่เป็นไรหรอก ที่อันที่จริงตรงนี้จะกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังของเราแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
กลไกสมอง สาเหตุการ“นอนไม่หลับ”ภาวะเครียดและโรคเรื้อรัง
เคล็บลับของคนนอนน้อย สมองสดชื่น ร่างไม่พัง เพิ่มโกรทฮอร์โมนชะลอวัย