“มะเร็งลำไส้”จากกรรมพันธุ์ ควรระวังมากแค่ไหน ? ยีนมะเร็งคืออะไร?
มะเร็งลำไส้ นอกจากพฤติกรรมเสี่ยงแล้ว กรรมพันธุ์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวัง เพราะจะช่วยกระตุ้นยีนให้กลายพันธุ์ได้โดยไม่รู้ตัว แพทย์เผยหากญาติสายตรง เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรทำอย่างไร? เพื่อไม่ให้รับมรดกโรคมาครอง
เซลล์ในร่างกายของเรามีจำนวนนับล้านล้านเซลล์ ถูกกำหนดให้ทำหน้าที่แตกต่างกันไป ตามคำสั่งของรหัสพันธุกรรมภายในเซลล์ รหัสพันธุกรรมหรือที่เรียกว่า ยีน (gene) ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ โดยสามารถแสดงออกให้เราเห็นจากภายนอก เช่น รูปร่าง หน้าตา สีผม ลักยิ้ม หรือจากภายในเช่น การตอบสนองต่อยา การตอบสนองต่ออาหาร และความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรค มะเร็ง ในแต่ละวัน สิ่งแวดล้อมและสารพิษรอบตัว หรือแม้กระทั่งรหัสพันธุกรรมที่ผิดปกติมาตั้งแต่เกิด
“มะเร็งลำไส้ใหญ่” สัญญาณคล้ายโรคทั่วไป แต่ห้ามละเลยเสี่ยงลุกลามรุนแรง
ตำแหน่งปวดท้อง บอกโรคเบื้องต้นได้ เผย อาการแบบไหนควรรีบพบแพทย์

สามารถกระตุ้นให้เกิดยีนกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือน หากร่างกายไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอมาต่อสู้ หรือระบบซ่อมแซม และกำจัดยีนที่ผิดปกติมาแก้ไข ยีนกลายพันธุ์เหล่านั้น จะเปลี่ยนเป็นยีนมะเร็งในที่สุด
ยีนที่เกี่ยวกับมะเร็งนั้นมีอยู่ด้วยกันประมาณ 500 ยีนจากยีนทั้งหมดในร่างกายกว่า 20,000 ยีน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- ยีนก่อมะเร็ง (oncogenes) เป็นยีนที่ทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์จนไม่สามารถควบคุมได้
- ยีนต้านมะเร็ง (tumor suppressor genes) เป็นยีนปกติที่ช่วยซ่อมแซม DNA ที่เสียหายและชะลอการแบ่งตัวของเซลล์ หากยีนต้านมะเร็งกลายพันธุ์หรือผิดปกติ จะนำไปสู่การเป็นมะเร็งในที่สุด
ใครเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ผ่านทางพันธุกรรม
- บุคคลทั่วไปที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็ง เช่น ท้องผูกบ่อย ทานผักน้อย ชอบทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ไหม้เกรียม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ มีความเครียดสะสมเรื้อรัง และอายุมากกว่า 50ปี
- บุคคลปกติที่มีประวัติญาติพี่น้องสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่มะเร็งปอด มะเร็งทวารหนัก และอื่นๆ จำนวนมากกว่า 2 คนขึ้นไป หรือ มีญาติสายตรงเป็นคนเดียวในช่วงอายุน้อยกว่า 50 ปี ด้วยการส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยเทคนิค NBI จากญี่ปุ่น แม่นยำ 2 เท่า คลิกอ่านต่อที่นี่
- บุคคลปกติที่มีสมาชิกในครอบครัว ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค มะเร็ง กรรมพันธุ์
Precision Medicine ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วย 2 แนวทาง
- ครอบครัวที่เป็นญาติสายตรง เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
กรณีนี้ท่านมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติทั่วไป ควรรีบมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ ในเรื่องการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ก่อน 50 ปี เพราะโดยส่วนมากแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ ส่องกล้องที่ช่วงอายุของคนในบ้านพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลบด้วยสิบ เช่น คุณพ่อพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ที่อายุ 40 ปี ลูกๆควรเข้ามาปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆที่อายุ 40-10= 30 ปี
- กรณีพบว่าท่านไม่มีสมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัว เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เลย
อย่าชะล่าใจ เพราะหลายครั้งที่ ยีนมะเร็ง จากพันธุกรรมนั้นอาจจะแสดงออกหรือไม่ก็ได้ในช่วงชีวิตหนึ่ง ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคน พ่อหรือแม่ของเราอาจมียีนมะเร็ง แต่ไม่แสดงออกมา ซึ่งท่านสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการตรวจยีนมะเร็งลำไส้ ซึ่งตรวจจากเลือด น้ำลาย หรือเซลล์กระพุ้งแก้ม โดยไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร และรอผลเพียงแค่ 30 วันเท่านั้น
พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งลำไส้ ทำไมคนยุคใหม่ถึงเสี่ยงมากกว่า?
วิธีการรักษา มะเร็งลำไส้ใหญ่
ในปัจจุบันเราสามารถให้การรักษา มะเร็งลำไส้ใหญ่ แบบเฉพาะเจาะจงได้หลายแนวทาง เช่น
- การใช้ยาชนิดเจาะจงเป้าหมาย (Targeted therapy) ในการฆ่าเซลล์มะเร็งแบบไม่ทำลายเซลล์ข้างเคียง เพื่อช่วยให้การรักษาประสบความสำเร็จและยืดอายุคนไข้ออกไป อีกทั้งยังลดความทรมานจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด ซึ่งก่อนใช้ยาแพทย์อาจตรวจยีนเพื่อหาการตอบสนองต่อต่อยาที่จะใช้
- การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy in Colon Cancer) ซึ่งช่วยให้การตอบสนองของเซลล์มะเร็งต่อยาดีกว่าเดิม โดยภูมิคุ้มกันบำบัดที่เราใช้มีหลากหลาย เช่น โมโนโคลนอลแอนติบอดี สารเลียนแบบสารภูมิต้านทานของร่างกายเราเองที่พัฒนาให้มีความจำเพาะและออกฤทธิ์ต่อมะเร็งชนิดนั้นๆ และสารยับยั้งการทำงานที่อิมมูนเช็คพอยต์ ซึ่งมีกลไกกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราเองตรวจจับและฆ่าเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
“ติ่งเนื้อ” พัฒนามะเร็งลำไส้ได้ เผยระยะมะเร็งอาจเสียชีวิตได้ใน 1-2 ปี
อาหารไม่ย่อย เรอเปรี้ยว เกิดจากอะไร เผยวิธีแก้และป้องกันลดเสี่ยงโรค!