ตกขาว อาการที่ไม่ควรมองข้าม สังเกตสีก่อนพบสัญญาณผิดปกติ!

“ตกขาว” ไม่ควรมองข้าม เช็กความผิดปกติของสีตกขาวพร้อมอาการได้ที่นี่! 

อาการตกขาวเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงที่หลายคนอาจมองข้าม แต่คุณรู้หรือไม่ว่าตกขาวในแต่ละสีสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพช่องคลอดของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีตกขาวสีใส เหลือง เขียว หรือแม้แต่สีน้ำตาล อาการตกขาวอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ควรใส่ใจ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปหาคำตอบว่าตกขาวคืออะไร ตกขาวเกิดจากอะไร และสีตกขาวจะบ่งบอกถึงสัญญานจากสุขภาพอะไรบ้าง เพื่อดูแลสุขภาพช่องคลอดอย่างถูกต้องและมั่นใจยิ่งขึ้น

ปรึกษาหมอออนไลน์ผ่านแอป สะดวก รวดเร็ว รับยาที่บ้าน

นอนไม่หลับเกิดจากอะไร? มีวิธีไหนบ้างที่ช่วยทำให้นอนหลับ?

Freepik/freepik

ทำความรู้จัก “ตกขาว” อาการที่ผู้หญิงควรรู้

ตกขาว (Vaginal Discharge) คือ ของเหลวที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายในการทำความสะอาดและรักษาสมดุลในระบบสืบพันธุ์ ของเหลวนี้ประกอบด้วยเซลล์ที่หลุดลอก น้ำเมือก และแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ โดยปกติแล้ว ลักษณะตกขาวจะเป็นสีขาวใสหรือขาวขุ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นเหม็น และอาจมีความเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงของรอบเดือนหรือฮอร์โมนในร่างกาย

อาการตกขาวที่ถือว่าปกติจะไม่มีอาการเจ็บ แสบ หรือคันร่วมด้วย แต่ในบางกรณี หากตกขาวมีสีผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง ตกขาวมีสีเขียว ตกขาวสีดำ หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือปัญหาสุขภาพที่ผู้หญิงทุกคนควรตรวจเช็กเพิ่มเติม

สีของตกขาว สัญญาณบ่งบอกสุขภาพในช่องคลอด

หลังจากทราบกันแล้วว่าตกขาวเป็นยังไง เรามาสังเกตลักษณะของตกขาวกันต่อ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ผู้หญิงรู้ทันการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย และช่วยป้องกันหรือรับมือกับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม โดยสีของตกขาวที่เราอยากนำเสนอ มีดังนี้

• ตกขาวสีขาวขุ่น

โดยทั่วไป ตกขาวก่อนเมนส์มา หรือ ตกขาวสีขาวขุ่นมักพบได้ในช่วงก่อนหรือหลังรอบเดือน และถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากตกขาวสีขาวเหมือนแป้งเปียก และข้นเหนียวเหมือนนมบูด รวมถึงมีอาการคันหรือแสบร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Yeast Infection)

• ตกขาวสีเหลือง

ตกขาวสีเหลืองอ่อนเล็กน้อยและไม่มีกลิ่นแรง อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรืออาหารที่รับประทาน แต่หากมีสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นเหม็น และมีอาการระคายเคืองร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ได้

• ตกขาวสีเขียว

ตกขาวสีเขียวมักเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด ซึ่งมักมีกลิ่นเหม็นและทำให้เกิดอาการระคายเคือง ซึ่งหลายคนสงสัยว่าตกขาวสีเขียว หายเองได้ไหม? คำตอบคือไม่สามารถหายเองได้ เพราะจำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราร่วมด้วย หากพบตกขาวสีเขียว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

• ตกขาวมีเลือดปน

การมีเลือดปนในตกขาวอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การตกไข่ หรือการเริ่มมีประจำเดือน แต่ถ้าเลือดปนปรากฏในช่วงที่ไม่ใช่รอบเดือน หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย อาจต้องระวังปัญหาสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในมดลูก หรือในกรณีร้ายแรง อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูก ทำให้วิธีรักษาตกขาวปนเลือดจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายต่อไป

ทำความเข้าใจโรคซึมเศร้า สาเหตุ อาการ พร้อมวิธีป้องกัน

ตกขาวผิดปกติ อันตรายไหม? 

ตกขาวผิดปกติอาจเป็นอันตรายได้ โดยขึ้นอยู่กับลักษณะและสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการอักเสบในช่องคลอด มดลูก หรืออวัยวะสืบพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งอาจลุกลามจนส่งผลต่อสุขภาพการเจริญพันธุ์ หรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

ดังนั้นหากพบตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น ตกขาวเป็นก้อนแป้งและมีสีแปลก ตกขาวเยอะมีกลิ่นเหม็น หรือมีอาการปวด คัน แสบร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะการปล่อยปัญหาไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

ตกขาวแบบไหนถึงควรไปพบแพทย์?

ตกขาวเยอะเกิดจากอะไร? ตกขาวแบบไหนควรไปพบแพทย์? คำตอบคือ ควรไปพบแพทย์เมื่อพบตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเขียว สีเหลืองเข้ม หรือมีเลือดปน โดยเฉพาะถ้ามีกลิ่นเหม็นรุนแรง มีลักษณะข้นผิดปกติคล้ายนมบูด หรือมีอาการแสบ คัน ระคายเคืองในช่องคลอดร่วมด้วย หากตกขาวมีปริมาณมากผิดปกติและเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยไม่เกี่ยวข้องกับรอบเดือน หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วม ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาทันที

รักษาตกขาวผิดปกติจากเชื้อราอย่างไรดี?

ตกขาวผิดปกติอาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงหลายคน เพราะนอกจากจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพแล้ว ยังอาจส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันด้วย โดยวิธีรักษาตกขาวที่แนะนำมีดังนี้

• ดูแลความสะอาดช่องคลอด : ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม หรือสารเคมีแรงเกินไปที่อาจรบกวนสมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด

• เปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ : หลีกเลี่ยงการใส่ชุดชั้นในที่อับชื้น หรือคับแน่นจนเกินไป

• รักษาสมดุลอาหาร : รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก ซึ่งช่วยรักษาสมดุลในช่องคลอด

• พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย : การพบแพทย์คือขั้นตอนสำคัญที่สุด เพื่อหาสาเหตุของอาการ เช่น การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะให้การรักษาเฉพาะทาง เช่น ยาต้านเชื้อรา ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม

ตกขาวมีกลิ่นและสีคล้ำ หาทางออกก่อนจะสายเกินแก้!

ตกขาวเป็นของเหลวที่ร่างกายผลิตเพื่อรักษาความสะอาดและสมดุลของช่องคลอด โดยปกติจะมีสีขาวใสหรือขุ่นเล็กน้อยและไม่มีกลิ่น แต่หากตกขาวมีสีผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือมีอาการคันและแสบร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลความสะอาด และใส่ใจสุขภาพก็สามารถช่วยป้องกันอาการตกขาวผิดปกติได้