“กินเจ” อย่างไรไม่ให้อ้วน บอกลาไขมันหน้าท้องให้หุ่นสวย
เปิดเคล็ดลับกินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน บอกลาไขมันหน้าท้องให้หุ่นสวย แค่ทานให้ถูกวิธี เช็กที่นี่!
เข้าช่วงเทศกาลกินเจทีไร หลายคนบ่นว่า ต้องน้ำหนักขึ้น หรืออ้วนแน่นอน เพราะมีแต่เมนูแป้ง โปรตีนเกษตรผสมแป้ง อาหารประเภทผัดและทอด ทำให้หาของทานลำบาก
แต่อันที่จริงแล้วการเลือกทานอย่างถูกหลักการ ผสมผสานกับการออกกำลังกาย ยังสามารถทำให้หุ่นของเรายังฟิตเหมือนเดิม หรือลีนขึ้นได้ ซึ่งเคล็ดลับในการกินเจให้ได้ทั้งบุญ ให้ได้ทั้งสุขภาพที่แข็งแรง มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
เตรียมล้างท้อง ก่อนเทศกาลกินเจ รวมวิธีปฎิบัติอย่างไรให้ได้บุญคู่สุขภาพ
เปิดประโยชน์ “ฝรั่ง” 33 ข้อ ลบความเชื่อกินเมล็ดแล้วเป็นไส้ติ่ง
6 วิธีกินเจเพื่อสุขภาพที่ดี
- สารอาหารที่ได้ต้องครบ 5 หมู่ ในช่วงกินเจแม้จะต้องละเว้นการทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่เราสามารถกินโปรตีนจากพืชได้ เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ รวมถึงโปรตีนเกษตร เพื่อเป็นการทดแทน
โปรตีนที่ได้จากถั่วจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าเนื้อสัตว์ ที่สำคัญร่างกายยังสามารถนำไปใช้ได้พอดีโดยไม่เหลือเป็นส่วนเกิน นอกจากนี้ยังมีกากใยช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น รวมถึงไม่มีคอเลสเตอรอลด้วย
- เลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง หรือไขมัน เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารเจส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยไขมัน และคาร์โบไฮเดรตค่อนข้างสูง เนื่องจากนิยมใช้แป้ง และน้ำมันมาประกอบอาหารเป็นหลัก หากรับประทานกันอย่างต่อเนื่องในปริมาณมากๆ อาจจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ควรหันมาบริโภคอาหารประเภทยำ ต้ม หรือนึ่งให้มากขึ้น และลดอาหารประเภทผัด หรือทอด
หรือหากทานคาร์โบไฮเดรต แนะนำให้เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น แป้งไม่ขัดขาว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังธัญพืช (โฮลวีต) เมล็ดพืช และธัญพืช เพราะเมื่อรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน กระบวนการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลจะช้ากว่าแป้งขัดขาว (คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว) นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าอย่างอื่นอีกเช่นวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารมากกว่า จะช่วยให้เราอิ่มนาน และไม่หิวบ่อย
- เน้นผัก ผลไม้ เส้นใย และวิตามินมักมีอยู่ในผัก ผลไม้ ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณทำการย่อยได้ดีขึ้น ป้องกันโรคอ้วน ช่วยขับของเสียและสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกมา เส้นใยจากผัก และผลไม้นั้นช่วยป้องกันมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ลดคลอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
- เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารรสจัด ทั้งเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดจนเกินไป จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เช่น หากคุณรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดก็จะไปทำลายกระเพาะอาหาร กินเค็มจัดจะไปทำลายไต ควรเลือกบริโภคอาหารรสจืดบ้าง ประเภทต้มหรือนึ่งให้มากขึ้น เช่น แกงจืดเต้าหู้ ถั่วเหลือง เป็นต้น
- จำกัดการทานของหวาน ขนมหวาน หรือน้ำผลไม้ ไม่เกินวันละ 1 กำมือ เพราะน้ำตาลส่วนเกินที่ร่างกายเรานำไปใช้ไม่หมดจะสะสมเป็นไขมันรอบพุง และไขมันในตับ ส่วนน้ำผลไม้แม้จะมีวิตามินแร่ธาตุมากมาย แต่ก็แลกมากับน้ำตาลที่มากด้วย ลองพยายามดื่มน้ำผักผสมผลไม้นิดหน่อยแทน จะช่วยเพิ่มคุณค่าและรสชาติให้เครื่องดื่มได้ หรือทานเป็นผลไม้สดไปเลยดีกว่า แต่ต้องเลือกทานที่ไม่หวานจัดจนเกินไป
- หิวระหว่างวัน เลือกทานธัญพืชและถั่วต่างๆ เป็นของว่าง หากเรามีถั่วต่างๆ ติดที่ทำงานหรือระหว่างไปไหน ก็จะช่วยให้เราไม่เผลอไปซื้ออะไรข้างทางในช่วงที่เดินไปไหน ซึ่งมีแต่กิเลสอาหารยั่วยวนในช่วงนี้ เพราะถั่วเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและทำให้อยู่ท้องระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่ควรกินเจ เพราะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารในช่วงวัยกำลังเจริญเติบโต หากต้องการกินเจก็ต้องให้ทานไข่และนมด้วย
ทั้งนี้ในช่วงกินเจควรใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำให้มากขึ้น อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะอาหารที่มีกากใยสูงต้องการน้ำในการทำงาน หากดื่มน้ำไม่พออาจทำให้เกิดอาการท้องอืด มีแก๊ส หรือปวดท้องได้
นอกเหนือจากการรับประทานแล้ว แนะนำให้นอนแต่หัวค่ำด้วย เพราะการนอนดึกอาจทำให้เราเผลอหยิบของว่างหรือขนมต่าง ๆ เข้าปาก เป็นการเพิ่มแคลอรี่ เพิ่มน้ำหนักเข้าไปอีก รวมถึงการการออกกำลังกายก็สำคัญ ช่วยทำให้หุ่นของเราลีนและเฟิร์มขึ้น ดังนั้นเมื่อเราใช้โอกาสในเทศกาลกินเจควบคุมอาหารทั้งทีแล้ว อยากให้ลองออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย แล้วเราจะเห็นผลลัพธ์อันน่าทึ่ง กลายเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม
รู้ว่าทำลายสุขภาพแต่ก็ยังกิน ทำไมเราถึงหลงใหล “อาหารขยะ”
“มันฝรั่งทอด” อาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาลสมิติเวช