เจกับมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร เช็กกินแบบไหนที่เข้ากับเรา
“เจ” กับ “มังสวิรัติ” เทรนด์สุขภาพยอดฮิตหลังโควิด เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และกินแบบไหนที่เข้ากับเรา เช็กที่นี่!
การระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนมากมาย ทั้งในด้านการใช้ชีวิต การกินการดื่ม รวมถึงการฮิตเทรนด์ด้านสุขภาพที่มากขึ้น โดยเฉพาะการกินอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยเสริมภูมิให้ห่างไกลโรค
ส่งผลให้หลายคนหันมาลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ และเพิ่มปริมาณผักหรือผลไม้เข้าไปในจานอาหารแต่ละมื้อ ซึ่งหมายความว่ากลุ่มคนที่กินเจและมังสวิรัติมีจำนวนเพิ่มขึ้น
สดชื่นได้ไม่ต้องอด! 5 ผลไม้ มีฤทธิล้างพิษ เตรียมล้างท้องก่อนกินเจ
ได้บุญพุงไม่ห่วงยาง! กินเจอย่างไรให้ได้สารอาหารครบ-ไม่อ้วน
สอดคล้องกับสถิติของ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่พบว่า ปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ต่อจำนวนประชากรในปี 2563 ที่มีการระบาดของโควิด-19 ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 ปี ด้วยสถิติกว่า 3% จากปี 2562
และสถาบัน Rabobank ได้คาดการณ์ไว้ว่า ตั้งแต่ปี 2563 ความต้องการโปรตีนจากสัตว์และอาหารสัตว์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะลดลง เปลี่ยนมาบริโภค เปลี่ยนมาบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น หรือผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช หรือเนื้อสัตว์ที่ใช้วัตถุดิบจากพืชมาทดแทน (plant-based meats)
ดังนั้นแล้วการทานเจและมังสวิรัติต่างกันอย่างไร แล้วเราควรเลือกกินแบบไหน มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
การกินเจ
การกินเจ คือ การทานอาหารที่ได้มาจากพืชเป็นหลัก ไม่มีของคาว รวมถึงพืชบางชนิดที่มีกลิ่นฉุน โดยในช่วงเทศกาลกินเจ จะต้องงดรับประทานอาหาร 4 ข้อดังนี้
1.งดกินเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายสัตว์ทุกชนิด
2. งดไข่ นม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์
3. งดอาหารรสจัด (รสเค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก และเผ็ดมาก)
4. งดผักกลิ่นฉุน ชาวจีนเชื่อว่า การกินอาหารเจทำให้สุขภาพดีและเป็นการปรับสมดุลให้ร่างกาย รวมถึงขับของเสียออกจากร่างกาย ด้วยการไม่กินผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ซึ่งเป็นผักที่มีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง นอกจากนี้แพทย์แผนจีนโบราณยังเชื่อว่าผักทั้ง 5 ชนิดเป็นผักที่ทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ของร่างกาย ได้แก่
- กระเทียม ทำลายการทำงานของหัวใจ ซึ่งกระทบต่อธาตุไฟในร่างกาย
- หัวหอม (ต้นหอม หอมแดง และหอมใหญ่) ทำลายการทำงานของไต ซึ่งกระทบต่อธาตุน้ำในร่างกาย
- หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน) ทำลายการทำงานของม้าม ซึ่งกระทบต่อธาตุดินในร่างกาย
- กุยช่าย ทำลายการทำงานของตับ ซึ่งกระทบต่อธาตุไม้ในร่างกาย
- ใบยาสูบ ทำลายการทำงานของปอด ซึ่งกระทบต่อธาตุโลหะในร่างกาย
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลจะต้องถือศีลทั้งกายและวาจา รักษาจิตให้บริสุทธิ์ ควบคุมอารมณ์ให้คงที่ ตลอดระยะเวลา 9-10 วันของทุกปีด้วย
การกินมังสวิรัติ
การกินมังสวิรัติ คือ การทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ และจะเน้นการทานพืช ผัก และผลไม้ ในบางรายอาจมีการทานเนื้อสัตว์เล็ก นม หรือไข่ร่วมด้วย ตามความสะดวกของแต่ละบุคคล โดยแบ่งออกได้เป็น 7 กลุ่ม ดังนี้
- มังสวิรัตินมและไข่ (Lacto-ovo vegetarian)
เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด คือ เน้นการกินพืช ผัก ผมไม้ รวมถึงสามารถทานทั้งนมและไข่ได้ แต่งดเนื้อสัตว์ทุกประเภท
- มังสวิรัตินม (Lacto vegetarian)
กลุ่มนี้เน้นการกินพืชผัก ผลไม้ และสามารถทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมได้ เช่น นม ชีส โยเกิร์ต เนย แต่งดเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากไข่ทุกประเภท
- มังสวิรัติไข่ (Ovo vegetarian)
กลุ่มนี้เน้นการกินพืชผัก ผลไม้ และสามารถทานไข่ได้ แต่งดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมทุกประเภท
- มังสวิรัติปลา (Pescatarian)
กลุ่มนี้เน้นการกินพืชผัก ผลไม้ และสามารถทานปลาและหอยได้ ทั้งนี้ในบางรายอาจทานนมหรือไข่เสริมด้วยก็ได้ แต่ไม่ทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว
- กึ่งมังสวิรัติ (Pollotarian)
กลุ่มนี้เน้นการกินพืชผัก ผลไม้ และสามารถทานปลา ไก่ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมทุกประเภท แต่งดเนื้อสัตว์ใหญ่หรือเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว
- มังสวิรัติบริสุทธิ์ หรือ วีแกน (Vegan)
กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เคร่งในการเป็นมังสวิรัติที่สุด ไม่เพียงแค่กินอาหารจากพืชเท่านั้น แต่ยังงดใช้เครื่องอุปโภคที่ทำมาจากสัตว์ และไม่สนับสนุนกิจกรรมที่เบียดเบียนสัตว์ทุกประเภท
- มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น (Flexitarian)
กลุ่มนี้เป็นคนที่กินมังสวิรัติอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มทาน แต่ไม่สามารถเลิกทานอาหารแบบปกติได้ และไม่อยากเครียดในการทานมังสวิรัติ หากจะพูดให้เห็นภาพชัดเจน คือ กลุ่มนี้ยังกินเนื้อสัตว์เล็กอยู่ เพียงแค่กินในปริมาณที่น้อยลง ร่วมกับการลดปริมาณน้ำตาลในมื้ออาหาร และจำกัดของหวาน เน้นทานอาหารจากพืชเช่นเดียวกับมังสวิรัติกลุ่มอื่นๆ หากร่างกายเริ่มชินและต้องการขยับเลเวลไปทานมังสวิรัติที่เคร่งขึ้นแบบกลุ่มอื่นก็สามารถทำได้
สรุปได้ว่าการกินเจและอาหารมังสวิรัติจะงดบริโภคเนื้อสัตว์เหมือนกัน แต่มังสวิรัติจะสามารถทานผักทุกชนิดได้ ในขณะที่การกินเจ จะต้องงดอาหารรสจัด งดผักฉุน รวมถึงต้องรักษาศีลและจิตใจให้บริสุทธิ์
“เจ-มังสวิรัติ” มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยลดโรค
การกินเจหรืออาหารมังสวิรัติจะเน้นไปที่การทานพืช ผัก ผลไม้ หรืออาหารชนิดต่าง ๆ ที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลต่ำ ทำให้ผู้คนจึงเชื่อว่าอาหารมังสวิรัติน่าจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะอาหารที่พบมักอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 12
อย่างไรก็ตามมีผลการศึกษาวิจัยมากมาย พบว่าการรับประทานเจหรืออาหารมังสวิรัติช่วยลดความเสี่ยงเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ, โรคเบาหวาน, การลดน้ำหนัก, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และ ภาวะฟันผุ/ฟันกร่อนได้ ดังนั้นเข้าใกล้ช่วงเทศกาลกินเจแล้ว หากใครอยากใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี ก็นับว่าไม่เสียหาย
ขอบคุณข้อมูลจาก : กองหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ POBPAD
“กินเจ” อย่างไรไม่ให้อ้วน บอกลาไขมันหน้าท้องให้หุ่นสวย
รู้ว่าทำลายสุขภาพแต่ก็ยังกิน ทำไมเราถึงหลงใหล “อาหารขยะ”
“มันฝรั่งทอด” อาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน