‘แมงลัก’ ประโยชน์เจ๋งแจ๋วทั้งใบและ ‘เม็ดแมงลัก’ สารอาหารเพียบตัวช่วยลดหุ่น
ใครมองหาตัวช่วยลดน้ำหนัก ลองเทใจมาให้เข้าแมงลักดู รับรองได้สารอาหารและหุ่นสวยสมใจ แถมประโยชน์เพียบ
“แมงลัก” (Hoary Basil หรือ Hairy Basil) พืชตระกูลกะเพรา หลายคนรู้จักแต่เม็ดแมงลักและกินมาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อย แต่ยังไม่เคยเห็นใบเพราะอาจสับสนกับกะเพรา-โหระพา แต่รู้หรือไม่ทั้งหมดล้วนเป็นประเภทเดียวกัน นอกจากนี้ต้นและใบกะเพรากับโหระพายังมีสีแดงปนอยู่บ้าง แต่แมงลักจะไม่มีสีแดงเลยอีกทั้งยังมีกลิ่นที่แตกต่างกันด้วย อีกทั้งยังมีประโยชน์แจ่มแจ๋วทั้งใบและเมล็ด
สุดยอดโปรตีนจากพืช! “เต้าหู้” ดีต่อหัวใจช่วยปรับฮอร์โมนวัยทองให้คงที่
“ฟักเขียว” ตำรับยาไทย สดชื่นแก้ธาตุพิการ-ถอนพิษไข้ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
- พลังงานน้อย แต่สารอาหารเพียบ ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลสารอาหารไทย โดยสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยพายัพ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ระบุว่า ใบแมงลักหนึ่งหน่วยบริโภค ให้พลังงานเพียง 32 กิโลแคลอรี และยังให้แร่ธาตุวิตามินมากมาย อาทิ วิตามิบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และไฟเบอร์
- ต้านโรคหวัด เพราะใบสดมีสรรพคุณเป็นยาแก้หวัด ลดอาการหลอดลมอักเสบ ขับเหงื่อได้
- เรียกน้ำนม สำหรับคุณแม่มือใหม่ การทานแมงลักจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม เพิ่มปริมาณสารอาหารในน้ำนมของมารดาส่งต่อให้ลูกน้อย อีกทั้งยังช่วยแก้อาการน้ำนมคัดได้อีกนะ
นอกจากใบที่มีประโยชน์แล้วเมล็ด หรือที่เรารู้จักกันว่าเม็ดแมงลัก ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน หลายคนชอบเอามาใส่กับน้ำหวานน้ำแข็งใสหรือผสมน้ำเปล่ากินกันแบบไม่ต้องเคี้ยว จนอิ่มกันแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ อีกทั้งยังเป็นธัญพืชที่มีราคาถูกหาง่ายกว่า เมล็ดแฟลกซ์ ควินัว ด้วย
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดี จาการกินอาหารในแต่ละวัน แต่จะไม่ทำร้ายต่อไขมันดีเพราะฉะนั้นช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้เลย
- ควบคุมน้ำหนักชั้นเลิศ เพราะเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่าจึงเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนัก แต่ไม่ใช่ว่าวันนึงจะกินแต่เม็ดแมงลักนะคะไม่งั้นได้ขาดสารอาหารแน่ค่า ควรรับประทานแค่บางมื้อ หรือพอให้กระเพาะอาหารรู้สึกอิ่มเท่านั้นดีกว่าค่ะ
- ยาระบายชั้นดี ด้วยความที่เปลือกด้านนอกสามารถพองตัวได้ โดยไม่ถูกย่อย เม็ดแมงลักก็เลยช่วยเพิ่มกากใยและช่วยหล่อลื่น ทำให้อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ขับถ่ายสะดวกขึ้นเยอะ วิธีใช้คือรับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชา แช่น้ำให้พอง แล้วดื่มก่อนนอน
- ทางเลือกป่วยเบาหวาน การที่เม็ดแมงลักพองตัวมากขนาดนั้น เลยทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลลดลงด้วย
“ฟักทอง” สัญลักษณ์วันฮาโลวีน กินอย่างไรให้สวยสุขภาพดี ไม่หลอนแบบผีๆ
ไม่อวสานมื้อเช้า! ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กินได้แต่พอดี เลี่ยงไขมันสูง-มะเร็งลำไส้
“เสาวรส” กินแต่พอดีช่วยแก้ปัญหาลำไส้-ลดอาการซึมเศร้า
ข้อควรระวัง- ก่อนกินต้องแช่น้ำให้พองตัวเต็มที่ หากกินเม็ดแมงลักที่พองตัวไม่เต็มที่ ลงไปอยู่ในท้องก็จะดูดน้ำภายในช่องทางเดินอาหาร ทำให้เม็ดแมงลักจับตัวเป็นก้อนแข็ง และอุดตันลำไส้ จนทำให้เกิดการท้องผูก และท้องอืดมากขึ้น
- อย่าทานยาพร้อมเม็ดแมงลัก การรับประทานแมงลักพร้อมกับยาตัวอื่น ๆ จะมีผลทำให้ร่างกายดูดซึมยาเหล่านั้นได้น้อยลง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยากับเม็ดแมงลักพร้อม ๆ กัน โดยให้เลือกรับประทานยาก่อนสัก 15 นาที
- เด็กเล็กยังไม่ควรทานเพราะอาจเป็นอันตราย หรือสำลักได้
เห็นแบบนี้แล้ว มื้อนี้ลองกหาใบแมงลักหรือเม็ดแมงลักซักหน่อย รับรองอิ่มอร่อยหุ่นดีแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลบางกล่ำ,disthai