"เค้ก-คุกกี้" ขนมยอดฮิต! ปาร์ตี้ปีใหม่ เสี่ยงอ้วนลงพุง
ช่วงเทศกาลปีใหม่ "เค้ก-คุกกี้" ถือเป็นเมนูที่หลายคนเลือกนำมาเฉลิมฉลองหรือมอบให้เป็นของขวัญ หากรับประทานติดต่อกัน อาจทำร่างกายได้รับแป้ง น้ำตาล และไขมันมากเกินไป ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
ขนมเค้ก คุกกี้ นับว่าเป็นของขวัญที่นิยมมอบให้กัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยรสชาติหวาน หอม อร่อย ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนเพลิดเพลินกับการกินขนมหวานเหล่านี้ การกินขนมเค้ก คุกกี้ รวมทั้งช็อกโกแลต และ ขนมหวานอื่น ๆ ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากกินมากเกินไป ติดต่อกันเป็นประจำ
การบริโภค "เค้ก-คุ๊กกี้" โดยไม่มีการควบคุม นั้นอาจทำร่างกายได้รับแป้ง น้ำตาล และไขมันมากเกินไป ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย
แคลอรีของขนมโดยเฉลี่ย
- ขนมเค้กเนยสด 1 ชิ้นเล็ก ที่มีขนาด 35 กรัม ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี
อาหาร-วิตามินชะลอข้อเสื่อม และวิธีการออกกำลังกายที่ถูกกับโรค
สูงวัยก็เก๋าได้! สารอาหารจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ ยืดอายุขัยให้ยาวนาน
- คุกกี้ 1 ชิ้น ที่มีขนาด 10 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี
- เค้กปริมาณ 1 ปอนด์พลังงาน 1,800 กิโลแคลอรี
ซึ่งเกือบเท่ากับพลังงานที่ร่างกายต้องการจากอาหารอื่น ๆ วันละ 1,600 – 2,000 กิโลแคลอรี่ แต่ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน แถมยังได้รับน้ำตาล และไขมันเพิ่มมากขึ้นด้วย
เนื่องจากขนมเค้กมีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ เนื้อเค้ก กับ หน้าเค้ก ซึ่งเนื้อเค้ก จะมีส่วนผสมทั้งไข่ เนย แป้ง และน้ำตาล มักเสียง่ายหากเก็บไว้ในที่ร้อน หรือเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม สำหรับหน้าเค้กส่วนใหญ่จะทำด้วยไขมันและน้ำตาล หากเก็บไว้นานอาจเหม็นหืน และขึ้นราขึ้นได้ จึงควรแบ่งปัน แจกจ่าย หรือกินตามวันหมดอายุที่ได้ระบุไว้
กินแบบไหนลดเลี่ยงอ้วนลงพุง ?
- เลือกขนมเค้กสูตรหวานน้อย
- เพิ่มผักหรือธัญพืชในเนื้อเค้ก
- ใช้ผลไม้ตกแต่งทดแทนครีม นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารด้วย คุกกี้ควรเสริมด้วย ธัญพืชต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
- ควรกินชิ้นเล็ก ๆ ควบคุมปริมาณการกิน
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของน้ำตาล ไขมัน ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคอ้วนลงพุง
อาหารจำพวก เค้ก คุกกี้ อาหารสำเร็จรูป ของทอด ครีมเทียม ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ ครัวซองโดนัททอด พัฟ เวเฟอร์ ขนมปังกรอบ ที่มีเนยขาว เนยเทียม หรือมาการีนเป็นส่วนประกอบ ยังมีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ที่เกิดจากการนำไขมันจากพืชไปผ่านกระบวนการ “ไฮโดรจิเนชั่นบางส่วน” ช่วยให้ระยะเวลาเก็บรักษาอาหารได้นานขึ้นและช่วยให้อาหารไม่เหม็นหืนได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมอาหารและขนมอบ เพราะมีราคาถูกและยืดอายุอาหารได้นาน ผลร้ายจากไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์มีส่วนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์ ในร่างกายเพิ่มขึ้น และทำให้คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดปริมาณลง เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน เพิ่มอัตราตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
รวมลิสต์อาหาร ผัก ผลไม้ -สมุนไพร ล้างพิษตับ-ป้องกันและชะลอโรคตับ
ปัจจุบันก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่บอกชัดเจนว่าปราศจากไขมันทรานส์ แต่ไม่ได้หมายความว่าตรวจไม่พบ แต่เป็นการกำหนดความเข้มข้นสูงสุดของไขมันทรานส์ที่ยอมให้มีได้ คือไม่เกิน 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค แน่นอน ทางหน่วยงานภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ในปัจจุบัน อย.ได้จัดทำร่างประกาศห้ามใช้ไขมันทรานส์ ทางภาครัฐให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนสูตร เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่จะตามมา นอกจากตระหนักถึงไขมันทรานส์ ระวังเรื่องไขมันอิ่มตัว เป็นส่วนประกอบที่มีมากในน้ำมันหมู น้ำมันไก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เพราะส่งผลร้ายให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่นกัน จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมด้วยไขมัน อาหารทอด ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่
จะเห็นได้ว่า เค้กหรือคุกกี้เพียงชิ้นเล็ก ๆ นั้นมีอันตรายแฝงอยู่มากขนาดไหน แต่อย่าพึ่งตกใจไป เพราะยังทานสิ่งเหล่านี้ได้อยู่ หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการกินสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงออกกำลังกายสม่ำเสมอไปด้วย ก็จะช่วยในเรื่องของสุขภาพที่ดีได้
ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ,กรมอนามัย
เติมสีสันในจาน! กลุ่มสีอาหารมากประโยชน์ เพิ่มภูมิต้านทานได้ตลอดชีวิต