รู้จัก “น้ำเชื่อมข้าวโพด” ภัยแฝงอาหาร กินเกินลิมิตเสี่ยงโรคอ้วน-โรคหัวใจ
“น้ำตาล” เรื่องใกล้ตัวที่แฝงในอาหารแทบทุกชนิด แต่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก “น้ำเชื่อมข้าวโพด” ชนิดฟรุ๊กโตสหรือ High Fructose Corn Syrup (HFCS) ซึ่งเป็นน้ำตาลสังเคราะห์ที่หากกินในปริมาณที่เกินลิมิต อาจนำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่างๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคความดัน และ โรคเบาหวาน
สารให้ความหวาน ที่เรารู้จักกันดีมักมาในรูปแบบน้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และน้ำเชื่อม ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาพูดถึง น้ำเชื่อมข้าวโพด (High-Fructose Corn Syrup: HFCS) อีกชื่อคือคอร์นไซรัป (Corn syrup) หรือ แบะแซ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผลิตขึ้นจากแป้งข้าวโพด ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีทำให้มีมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสและกลูโคสมากกว่าน้ำตาลกลูโคสปกติ ถึง 1.7 เท่า อีกทั้งยังราคาถูกกว่าจึงมักพบในเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน เบเกอร์รี่ อาหารแปรรูป ขนมถุง หรือนมบางชนิด เป็นต้น
อาหารกระตุ้นการอักเสบของร่างกาย สะสมนานเป็นเหตุก่อโรคเรื้อรัง
ปริมาณน้ำตาลใน "ขนมไทย" กินได้แต่พอดี ลดเสี่ยงก่อโรคเบาหวาน
อันตรายจากน้ำเชื่อมข้าวโพด
ในแง่ของโภชนาการแล้วอะไรที่มากไปก็ไม่ดีกับร่างกายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน หากกินในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อร่างกายในปัจจุบันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากมองลึกๆแล้วเหล่านี้คือภัยอาหารแฝง? เพราะบางครั้งที่ฉลากตามร้านค้าทั่วไป อาจจะเขียนกำกับไว้ว่า Sugar Free คือ ปราศจากน้ำตาล บางอันน้ำตาลน้อย โดยกลไกของ แต่หากลองสังเกตดีๆ จะมีเขียนกำกับไว้ว่า Corn Syrup คือ มีน้ำตาลข้าวโพดหรือน้ำตาลอ้อยหรืออะไรก็ตาม หรือ เขาเรียก ไฮฟรุกโตส เนี่ย ตัวนี้ก็เรียก น้ำตาลเหมือนกัน และอันตรายยิ่งกว่าซะอีก เพราะเป็นน้ำตาลที่ผลิตขึ้นมา ไม่ใช่น้ำตาลธรรมชาติ และถ้าหากได้รับเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ
- โรคอ้วน ที่นำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่างๆ อาทิ โรคหัวใจโรค เบาหวาน โรคความดัน เส้นเลือดแตก เส้นเลือดตีบ อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน
- น้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากน้ำเชื่อมข้าวโพดมีค่าความหวานสูงมากและยังเป็นสารที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย ให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนตามข้อแรก รวมทั้งมีไขมันอุดตันเส้นเลือด ปวดศีรษะ และอาจเป็นโรคเบาหวานได้
- อาจตกค้างในตับ น้ำเชื่อมข้าวโพดมีส่วนประกอบของฟักโตสจำนวนมาก จึงต้องผ่านกระบวนการเผาผลาญโดยใช้ตับ หากตับไม่สามารถย่อยได้จนหมดก็อาจแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นสารพิษตกข้างในร่างกายหรือที่ตับโดยตรง งานวิจัย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับต่างๆ เช่น โรคตับแข็งและโรคมะเร็งตับ พบว่ากว่า 20% มีสาเหตุมาจากการกินน้ำเชื่อมข้าวโพดมากจนเกินไปหรือกินมากจนเกิดการสะสมในร่างกาย
- อาจทำให้หิวบ่อย น้ำเชื่อมข้าวโพดยังมีส่วนทำให้ฮอร์โมนเกรลินที่ทำหน้าที่ควบคุมการหิวไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทำให้รู้สึกอยากอาหาร กินมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดโรคเกี่ยวกับเมตาบอลิซึ่ม เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน ความดังสูง หรือทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียได้
งานวิจัยใหม่เผย “น้ำตาลเทียม” ปัจจัยเสี่ยงก่อโรคหัวใจ-หลอดเลือดสมอง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อมข้าวโพดจะถูกบังคับให้แจ้งบนฉลากว่ามีส่วนผสมของน้ำเชื่อมข้าวโพดในปริมาณเท่าไร เพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภค แม้ว่าน้ำเชื่อมข้าวโพดดูจะเต็มไปด้วยข้อเสียหรือโทษกับร่างกายหลายด้าน หากกินแต่พอดี เลือกกินอาหารอย่างอยากหลาย เน้นผักและผลไม้ ไม่กินบ่อย ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ย่อมช่วยให้ห่างไกลโรคนะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลจาก : DrAmp Team และ hd.co.th และ medicalnewstoday
“น้ำอัดลม” ดื่มเกิดลิมิตเสี่ยงโรครุมเร้า ร่างพัง อัตราหัวใจล้มเหลวเพิ่ม 23%
เด็กไทยมีภาวะอ้วนติดท็อป 3 ของอาเซียน ส่วนใหญ่ซื้ออาหารตามความชอบ