“มันเทศ”ไฟเบอร์สูงลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้-โรคหัวใจ แล้วกินสีไหนดีกว่ากัน ?
มันเทศ อาหารสุดโปรดของใครหลายคน นอกจากกลิ่นหอมๆ กับรสชาติหวานอร่อยเป็นเอกลักษณ์ แถม อิ่มท้องนาน แล้วรู้หรือไม่ มันเทศยังเจ๋งต่อสุขภากกว่านั้นเพราะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ได้ มีสาารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย!
“มันเทศ” เป็นพืชหัวในดิน มีรสชาติเฉพาะตัว อุดมด้วยสารอาหารสูงเป็นแหล่งของวิตามินหลากหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี 2, บี 6 วิตามินซี วิตามินอี รวมไปถึงแร่ธาตุเลอค่าอย่างแมงกานีสโฟเลต ทองแดง เหล็ก และมีกรดแพนโทเทนิก นี่ยังไม่รวมถึงเส้นใยอาหารที่สูงลิ่ว
มันเทศ มีประโยชน์อะไรบ้างนะ ?
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะมีโปรตีนชั้นดีแคลอรี่ต่ำ อีกทั้งยังมีน้ำตาลต่ำ เรียกว่าเป็นตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีเชียวล่ะ
กินแบบไหน? เพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว เลี่ยงไขมันทรานส์ ห่างไกลโรค
Superfood ! 7 กลุ่มอาหารบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับไขมันเลว
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสู้กับปัญหาการอักเสบต่างๆ หรือแม้แต่ทารกในครรภ์ เนื้อของมันเทศก็ยังเข้าไปช่วยพัฒนาเนื้อเยื่อให้ดีขึ้นด้วย
- ลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้ เพราะมันเทศนั้นมีไฟเบอร์สูง ซึ่งจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย เคลียร์อาการท้องผูก และที่สำคัญพบว่าการกินมันเทศสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย
เลือกกินมันเทศแบบไหนดีกว่ากัน ?
ในบ้านเรานั้นจะมีมันเทศอยู่หลายสี ซึ่งแต่ละสีก็จะมีคุณค่าทางโภชนาการที่ต่างกัน
- มันเทศสีม่วง มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- มันเทศเป็นสีส้ม ก็จะมีสารเบต้าแคโรทีนเยอะ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ และยังช่วยป้องกันโรคตาบอดกลางคืนได้ด้วย
- มันเทสสีเหลือง ก็จะมีประโยชน์คล้ายกับมันเทศสีส้ม คือ มีเบต้าแคโรทีน แต่อาจจะมีในปริมาณที่น้อยกว่า
รู้จัก “น้ำเชื่อมข้าวโพด” ภัยแฝงอาหาร กินเกินลิมิตเสี่ยงโรคอ้วน-โรคหัวใจ
โดยทั่วไปแล้ว มันเทศถือว่าเป็นพืชที่มีความปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตราย แต่ผู้ที่มีอาการแพ้มันเทศ ควรหลีกเลี่ยง ขณะที่ ในมันเทศมีสารออกซาเลต (Oxalates) ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดนิ่วในไตได้ การเลือกมันเทศดีที่และปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดสารพิษตกค้าง ควรเลือกมันเทศ เลือกหัวที่แน่น สีเข้ม มีผิวเรียบ ไม่มีรอยเหี่ยวช้ำ รู หรือรากงอกออกมา ควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
Superfood! "อะโวคาโด"ผลไม้อุดมด้วยไขมันดี-วิตามิน ลดเสี่ยงมะเร็ง
“มันฝรั่งทอด” อาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน