6 ความเสี่ยง “ไขมันในเลือดสูง” ก่อโรคหัวใจ ที่คนผอมก็เป็นได้!
ถึงแม้ว่า “ความอ้วน” จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย แต่ในผู้ที่มีรูปร่างดีหรือที่ใครเรียกว่า “คนผอม” นั้น ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโรคร้ายแอบซ่อนอยู่ โดยเฉพาะ “ภาวะไขมันในเลือดสูง” สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในคนที่มีรูปร่างอ้วนและผอม จึงเท่ากับว่า... ไม่ว่าคุณจะอ้วนหรือผอมก็เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ หากปล่อยให้ระดับไขมันในเลือดสูงเกินไป!
“ไขมันในเลือดสูง” (Hypercholesterolemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีความไม่สมดุลของระดับไขมันในกระแสเลือด อาจเป็นระดับโคเลสเตอรอลสูง หรือระดับไตรกลีเซอร์ไรด์สูงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือสูงทั้งสองชนิดก็ได้ ภาวะไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ทำไมคนผอมถึงเสี่ยงไขมันในเลือดสูงได้ ?
“ไขมันในเลือด” เป็นส่วนของไขมันที่ละลายอยู่ในกระแสเลือด ต่างกับ “ไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง”
ไขมันในเลือดสูงเสี่ยงหลายโรค นำไปสู่การเสียชีวิตฉับพลันได้
“มันเทศ”ไฟเบอร์สูงลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้-โรคหัวใจ แล้วกินสีไหนดีกว่ากัน ?
เพราะฉะนั้น คนอ้วนอาจจะไม่ได้มีภาวะไขมันในเลือดสูงเสมอไปและคนผอมเอง...ก็ไม่ได้แปลว่าจะรอดพ้นจากความเสี่ยงนี้นะ เพราะยังมีปัจจัยและสาเหตุอื่นทำให้เกิดได้ เช่น
- พันธุกรรม พ่อหรือแม่ หรือคนในครอบครัวมีประวัติไขมันในเลือดสูง ในข้อนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำไมคนผอมก็มีไขมันในเลือดสูงได้
- มีโรคบางชนิด เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ โรคตับ หรือโรคเบาหวาน
- มีรูปร่างอ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน
- ชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด หรือเนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์ เบคอน แฮม น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม หรือ อาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเช่น เนย มาการีน ขนมอบและเบเกอรี่บางชนิดเฟรนช์ฟรายด์ เป็นต้น
- ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำ หรือสูบบุหรี่จัด
- ไม่ชอบออกกำลังกาย
ทำไม? ไขมันในเลือดสูง...ถึงเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็น “โรคหัวใจ”
ทั้งคอเลสเตอรอลและระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ที่สูงกว่าปกติเหล่านี้จะเข้าไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอักเสบและภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และเมื่อมีการสะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลอดเลือดแดงในร่างกายก็จะเกิดการตีบหรืออุดตัน เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง ที่ส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวายซึ่งเป็นภาวะเฉียบพลัน... ที่อันตรายถึงชีวิต
การตรวจหาไขมันในเลือด ?
ในการตรวจเพื่อวินิจฉัยว่าคนไข้มีภาวะไขมันในเลือดสูงหรือไม่นั้น แพทย์จะทำการตรวจระดับคอเลสเตอรอล (Total cholesterol , TC) ร่วมกับระดับของไขมันชนิดอื่นๆ อย่าง LDL (Low Density Lipoprotein), HDL (High Density Lipoprotein) และ TG (Triglyceride) ซึ่งระดับไขมันชนิดต่างๆ ควรอยู่ในเกณฑ์นี้
- คลอเลสเตอรอล (Cholesterol) หรือ TC ควรน้อยกว่า 200 mg/dl
- ไขมันไม่ดี (LDL-Cholesterol) LDL – C ควรน้อยกว่า 130 mg/dl ซึ่งมีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอลในปริมาณสูง
- ไขมันดี (HDL-Cholesterol) HDL – C ควรมากกว่าหรือเท่ากับ 40 mg/dl เพราะเป็นไขมันที่ช่วยขนส่งคอเลสเตอรอลจากเซลล์ต่างๆ ไปทำลายที่ตับ
- ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) TG ควรน้อยกว่า 150 mg/dl ซึ่งถ้ายิ่งมีมาก...ยิ่งทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว
ใครบ้างควรตรวจไขมันในเลือด?
- ควรตรวจเมื่ออายุเกิน 35 ปีขึ้นไป ถ้าปกติ และไม่ได้มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดตีบอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่
- อายุยังไม่เกิน 45 ปี (ผู้ชาย) หรือ 55 ปี (สำหรับผู้หญิง) ไม่มีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจในครอบครัวตั้งแต่อายุน้อย (ผู้ชายไม่เกิน 55 ปี และผู้หญิงไม่เกิน 65 ปี) และยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ควรตรวจซ้ำในอีก 5 ปีข้างหน้า
- มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวแล้วและตรวจพบไขมันในเลือดปกติก็ตรวจซ้ำในอีก 1-3 ปี
4 สัญญาณ กับ 5 พฤติกรรม เสี่ยง “หลอดเลือดหัวใจตีบ” ควรพบแพทย์
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อไขมันในเลือดสูง
- ควบคุมอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันสัตว์ สมองสัตว์ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง อาหารทะเล หอยนางรม ปลาหมึก กุ้ง หนังเป็ด หนังไก่ มะพร้าว อาหารที่มีกะทิ หากมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงด้วย ควรระวังอาหารพวกแป้ง น้ำตาล เครื่องดื่มที่มีรสหวาน ผลไม้รสหวานจัด
- รับประทานอาหารประเภทเนื้อปลา เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมพร่องมันเนย
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์สะสมไขมันตามเนื้อเยื่อ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมัน อาหารทอด เจียว ควรใช้น้ำมันจากพืชที่มีกรดไลโนเลอิกเป็นตัวนำ คอเลสเตอรอลไปเผาผลาญซึ่งจะช่วยในการดูดซึมไขมันสู่ร่างกายน้อยลง
- ควรเพิ่มอาหารประเภทผักใบต่างๆ และผลไม้บางชนิดที่ให้กากและใย เช่น คะน้า ฝรั่ง ส้ม เม็ดแมงลัก ให้ร่างกายได้รับกากใยมากขึ้น เพื่อช่วยในการดูดซึมไขมันสู่ร่างกายน้อยลง
- การออกกำลังกาย จะช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด และเพิ่มระดับของ HDL ควรทำอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง ครั้งละ 20 - 30 นาที การออกกำลังกายที่ดี เช่น การเดินเร็ว จ๊อกกิ้ง เต้นรำ ขี่จักรยาน
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ HDL ในเลือดต่ำลง เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- ปรึกษาแพทย์ ติดตามผล การปฏิบัติตัวบางระยะอาจต้องใช้ยาช่วยปรับระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แนะนำ และติดตามผลการรักษาต่อไป
ไขมันในเลือดสูง เป็นภัยเงียบที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคต่างๆ ได้อีกมากมาย การตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็คระดับไขมัน ค้นหาความเสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูง จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เราทราบว่า เราควรปรับพฤติกรรม หรือถึงเวลาที่ต้องรักษาด้วยการทานยาในเบื้องต้นแล้วหรือยัง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในอนาคตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล,สำนักโภชนาการ
Superfood ! 7 กลุ่มอาหารบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับไขมันเลว