5 กลุ่มอาหารซ่อนโซเดียมสูง ไม่เค็มแต่กินมากก็เสี่ยงโรคไต-หัวใจได้
รู้หรือไม่ ? อาหารที่เรามองข้ามอาจเป็นสิ่งก่อโรคโดยไม่เราไม่รู้ตัวจากโซเดียมแฝงที่ซ่อนอยู่ !
ปัญหาสุขภาพที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวแต่ไม่ใส่ใจถึงปัญหาเรื้อรังที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือการบริโภคอาหารหรือการใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมมาก 2-3 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการ แม้จะเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ในการรักษาสมดุลของน้ำและความดันโลหิต แต่หากได้รับมากเกินความจำเป็น อาจก่อให้เกิดปัญหาโรคเรื้อรังระยะยาว อย่างเช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้
8 กลุ่มอาหารควรหลีกเลี่ยง โซเดียมสูง เสี่ยงโรคไตเรื้อรัง -โรคหัวใจ
เช็ก!นิสัย“ติดเค็ม-โซเดียมสูง”หากพบ 1 ข้อ เพิ่มเสี่ยง“มะเร็งกระเพาะอาหาร”
ร่างกายต้องการโซเดียมวันละเท่าไหร่?
ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 1500- 2,000 มิลลิกรัม หรือเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา โดยเทียบกับน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา ซึ่งโดยทั่วไปร่างกายจะได้รับโซเดียมจากเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหาร แต่ที่นอกเหนือจากเกลือนั้น โซเดียมยังแฝงอยู่ในอาหารอีกมากมายหลายประเภทโดยที่เราอาจนึกไม่ถึง
- เครื่องปรุงรสชนิดต่างๆ อย่างน้ำปลา ซีอิ๊ว กะปิ ซอสหอยนางรม ปลาร้า ซุปสำเร็จรูป ผงชูรส หรือเครื่องปรุงรสแทบทุกชนิด
- อาหารแปรรูป เช่น อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง ขนมกรุบกรอบ รวมถึงเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ
- ขนมที่มีการใช้ผงฟูเป็นส่วนประกอบ เช่น ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เพราะในผงฟูจะมีปริมาณโซเดียมสูง
- เครื่องดื่มเกลือแร่ที่นักกีฬานิยมดื่ม หากดื่มมากกว่าปริมาณที่แนะนำก็จะได้รับโซเดียมมากเกินไป
- น้ำผลไม้คั้นสดหรือแปรรูปที่ขายตามท้องตลาด มักมีการเติมเกลือหรือมีการใส่ส่วนประกอบอื่นๆ ในการปรุงรส ซึ่งมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ
4 อาหารยิ่งกินเยอะ ยิ่งทำลายกระดูก เสี่ยงเสื่อม-เปราะบาง กระดูกพรุน
แนวทางการลดการกินเค็มและโซเดียม
- เลือกรับประทานอาหารสดตามธรรมชาติ หากต้องการปรุงอาหารควรเลือกใช้เครื่องปรุงรสให้น้อยที่สุด หรือเลือกชนิดโซเดียมต่ำ
- หลีกเลี่ยงการใส่ผงชูรส
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ขนมกรุบกรอบ และเบเกอรี่ทุกชนิด
- ลดการใช้ซอสปรุงรสหรือน้ำจิ้มประกอบการกินอาหาร
- ปรับนิสัยการรับประทานอาหารให้กินรสจืดขึ้น เพื่อลดการเติมเครื่องปรุงรส
- อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อหรือก่อนรับประทาน โดยเฉพาะดูปริมาณโซเดียมในอาหารนั้นๆ
การลดการกินเค็มที่ดี คือการปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม เน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่กินอาหารรสจัดหรือรสเค็มมากเกินไป เพราะการกินเค็มจะส่งผลต่อการทำงานของไตโดยตรง ทั้งนี้ควรตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองความผิดปกติของร่างกาย หากพบความเสี่ยงหรือรอยโรคใดๆ แพทย์จะได้แนะนำเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค หรือรีบทำการรักษาอย่างตรงจุดต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลราชวิถี
เตือนเทรนด์ “อิ๊วโซดา” เสี่ยงน้ำตาล-โซเดียมสูงเกินลิมิตสุขภาพพัง
อาหาร 6 กลุ่มที่ผู้ป่วย “โรคไตเรื้อรัง” ต้องรู้ กินแบบไหนช่วยชะลอโรค?