“เลซิติน” สุดยอดสารบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยดูดซึมวิตามินได้ดียิ่งขึ้น
หลายคนคงรู้จัก สารอาหารบำรุงสมอง อย่าง Fish Oil, กิงโกะ, วิตามินบี แต่จริง ๆ แล้วมีสารตัวหนึ่งที่มีความสำคัญต่อสมองมาก นั่นคือ “เลซิติน” ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง เสริมความจำ ลดภาวะสมองเสื่อมอัลไซเมอร์
เลซิติน (Lecithin) เป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัส กรดไขมัน และวิตามินในกลุ่มวิตามินบี อีกทั้งมีสารสำคัญที่ชื่อว่า “ฟอสโฟไลปิด (Phospholipid)” ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของทุกระบบในร่างกาย โดยเฉพาะสมองกับระบบประสาทที่เป็นศูนย์สั่งการและคอยควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเลซิตินจะช่วยดูแลระบบการทำงานของสมองและประสาท ช่วยบำรุงสมอง ความจำ และการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่หลงลืมอะไรง่าย ๆ
3 ธัญพืชยอดนิยม กินแล้วอารมณ์ดี ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ
“วิตามิน” กินมากไปเสี่ยงตับทำงานหนัก แนะปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน
หากสมองขาดสารตัวนี้ อาการหลง ๆ ลืม ๆ อาจถามหา รวมถึงการเรียนรู้และความจำจะเสื่อมสมรรถภาพลงหรืออาจเข้าขั้นสมองเสื่อมได้ โดยจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของอเดลล์ เดวิส นักโภชนาการชาวสหรัฐฯ ได้รายงานว่า ในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดีจะมีสารเลซิตินอยู่ในสมองถึง 30% ของน้ำหนักทั้งหมด
นอกจากนี้เลซิตินเป็นสารธรรมชาติที่ทุกเพศทุกวัยต้องการ ตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องการเลซิตินไปใช้ในการสร้างเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายพร้อมเสริมสร้างความจำและการเรียนรู้ วัยทำงานเป็นวัยที่ใช้สมองเยอะ นอนดึก ทำงานหนักบวกกับความเครียดสูง เลซิตินจึงถือเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของสมอง และวัยผู้สูงอายุจะช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์รวมถึงโรคพาร์กินสัน ปัจจุบันนิยมใช้เลซิตินรักษาคนไข้ที่ความจำและระบบประสาทบกพร่อง โดยการทานเลซิตินวันละ 25 กรัมเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกันพบว่ามีอาการดีขึ้นและการศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมระยะเริ่มแรกพบว่า การได้รับโคลีนจากเลซิตินเป็นระยะเวลา 6 เดือนช่วยให้ความจำดีขึ้นและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หรือการให้เลซิตินร่วมกับยาที่ใช้รักษาก็จะทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย
อาหารที่พบเลซิติน
- ไข่
- ถั่วเหลือง
- เมล็ดทานตะวัน
- ตับ
- บริเวอร์ยีสต์ (ยีสต์ที่เพาะไว้เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมโดยเฉพาะ ซึ่งให้โภชนาการที่สมบูรณ์หลากหลาย)
ซึ่งหลายวัตถุดิบต้องผ่านกรรมวิธีการปรุง เช่น ต้ม ทอด ย่าง ซึ่งความร้อนอาจทำลายเลซิตินไปมาก เพราะฉะนั้นการทานอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (Supplements) หรือเลซิตินสกัดธรรมชาติเสริมก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ปริมาณเลซิตินที่ร่างกายควรได้รับ คือวันละ 1,200 – 2,400 กรัม
10 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มหน่วยความจำ แก้สมองล้า ลดเสี่ยงอัลไซเมอร์
ประโยชน์เลซิตินในด้านต่าง ๆ
- ดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกาย
การได้รับเลซิตินจะช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเคถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น
- ช่วยสร้างเยื่อบุผิวเซลล์ต่าง ๆ
ร่างกายจะนำเลซิตินไปใช้ในการสร้างเยื่อบุผิวเซลล์ต่าง ๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ผิวหนัง รวมถึงเซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ และเลซิตินยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการสร้างโมเลกุลที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ฮอร์โมน เอนไซม์ ระบบภูมิคุ้มกันบางชนิด การแข็งตัวของเลือด เพื่อให้การทำงานภายในร่างกายสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เลซิติน” มีความสำคัญต่อสมองและร่างกาย โดยเฉพาะสมอง หากอ่อนแอเมื่อไร ระบบร่างกายอื่น ๆ อาจรวนตาม ทั้งนี้การรับเลซิตินในอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะเป็นแหล่งจากธรรมชาติ แต่หากต้องการทานวิตามินเสริมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกอาหารเสริมที่ได้คุณภาพจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพราะการดูแลตัวเอง มองหาสิ่งที่เสริมร่างกายและสมองให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการทำงานและใช้ชีวิตในแต่ละวัน คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ
ความลับวิตามิน B เสริมสร้างภูมิต้านทานบำรุงประสาทและสมอง
10 ประโยชน์ “กากกาแฟ” อย่าเพิ่งทิ้ง! ใช้ต่อได้ดูแลผิวยันงานบ้าน!