อาหารเสริมภูมิต้านทานช่วงหน้าฝน กินวิตามินซีอย่างไรช่วยเรื่องหวัดได้!

ในช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง กลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ กลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมักได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย รวมทั้งประชาชนควรหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด

7 สมุนไพรไทยแก้ไอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอ

อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อโรค ลดอัตราการป่วยในช่วงอากาศเปลี่ยน

อาหารที่ควรกินเพิ่มภูมิต้านทานช่วงหน้าฝน

• กระเทียม หอมแดง กระชาย ขิง ข่า ตระไคร้ ผักต่างๆหลากสี  ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี ได้แก่ พริกหวาน ผักโขม บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก ปวยเล้ง มะระขี้นก ผักหวาน ขี้เหล็ก ใบกะเพรา และมะนาว ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเป็นประจำ เช่น ฝรั่ง มะละกอ ส้มโอ มะเฟือง ส้มเขียวหวาน และกล้วยน้ำว้า เป็นต้น

วิตามินซีกินแค่ไหนช่วยเรื่องหวัดได้ ?

อย่างไรก็ตาม วิตามินซี เชื่อแน่ว่าทุกคนรู้จักและทราบถึงประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการเพิ่มภูมิต้านทานและป้องกันโรคหวัด  แต่แค่การรับประทานวิตามินซีทุกวันไม่สามารถป้องกันโรคหวัดในคนทั่วไปแต่อาจช่วยป้องกันได้ในคนที่ออกกำลังกายหนัก หรือมีความเสี่ยงต่อการพร่องวิตามินซี เช่นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่สูบบุหรี่เรื้อรังช่วยลดระยะเวลาที่ป่วยเป็นไข้หวัดได้ 8% ในผู้ใหญ่ และ 14% ในเด็ก แต่หากกินหลังจากเป็นโรคหวัดแล้ว พบว่า ไม่ช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรค บรรเทาหวัด ทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40

การรับประทานวิตามินซีเสริมในผู้ป่วยบางกลุ่ม

• เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนี่วในผู้ป่วยโรคไต
• อาจทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกินในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย

คำแนะนำ

วิตามินซีดูดซึมได้ในปริมาณจำกัด จะดูดซึมได้ดีที่สุด เมื่อรับประทานครั้งละไม่เกิน 200 มิลลิกรัม ส่วนที่เกินจากนี้จะถูกคูดซึมได้น้อยมาก วิตามินซีถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อนและแสง ผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินซีหากเก็บในที่ไม่เหมาะสมจะมีปริมาณวิตามินซีเหลืออยู่น้อย

ความลับของ “วิตามินซี” กินวันละเท่าไหร่มีผลดีต่อร่างกายมากที่สุด?

อาหารและวิตามินซี จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และต้านโรคหวัดได้ รวมทั้งควรกินอาหารที่ปรุงสุกร้อน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายและป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลชีพก่อเกิดโรคในระบบทางเดินอาหารนอกจากนี้ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมากโดยทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาวให้หน้าฝนหรืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัยและ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

6 อาหารสุขภาพที่ควรหลีกเลี่ยง เสี่ยงได้รับน้ำตาล-สารสังเคราะห์ไม่พึงประสงค์

4 กลุ่มอาหารบำรุงปอด ตามศาสตร์การแพทย์จีน ลดเสมหะในปอด-สร้างพลังงาน