รวมวิตามินบำรุงสายตา ลดจอประสาทตาเสื่อม เพิ่มการมองเห็นในที่มืด
ตาพร่ามัวบ่อย ต้องเช็ก วิตามินช่วยบำรุงสายตา แหล่งอาหารช่วยให้ตาชุ่มชื้นตาไม่แห้งลดโอกาสโรคจอประสาทตาเสื่อม
การมองเห็น นับเป็นอุปสรรค์ของใช้ชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน ที่ต้องพบกับมลภาวะต่างๆ แสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องอยู่หน้าคอมพ์ทั้งวัน ซึ่งโรคตาที่พบได้บ่อย ได้แก่ ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม (AMD) เป็นต้น
การทดลองทางคลินิก ให้โอเมก้า 3 วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2,000 มก. และติดตามผลทุก 3 เดือนเป็นเวลา 1 ปี สามารถลดอาการตาแห้ง ช่วยทำให้คุณภาพของน้ำตาดีขึ้น และบำรุงประสาทตา
วิตามินสำหรับนักวิ่ง เพิ่มความฟิต ลดความเมื่อยล้า ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ความลับวิตามิน กินได้ทุกวัน-อาหารบางชนิดกินเยอะเสี่ยงขาดวิตามิน?

วิตามินเอ (Vitamin A)
มีบทบาทสำคัญในการมองเห็น โดยเป็นองค์ประกอบสำคัญของโรดอปซิน (Rhodopsin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ที่จุดรับแสง เรตินาในดวงตา โดยทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเยื่อบุตาและกระจกตา ช่วยในการมองเห็นในที่มืด การขาดวิตามินเอ อาจเกิดอาการที่รุนแรงได้เรียกว่า Xeropthalmia ในระยะแรกจะมีอาการตาบอดกลางคืน (Night Blindness) จึงควรได้รับวิตามินเอในการช่วยปกป้องเรตินาจากการทำร้ายของแสงยูวีและเพื่อการบำรุงสายตา
วิตามินเอ ที่อยู่ในอาหาร มี 2 ลักษณะ
- วิตามินเอบริสุทธิ์ (Retinol) พบได้ในผลิตผลจากสัตว์ ได้แก่ ตับ ไข่แดง น้ำนม เนย
- แคโรทีนอยด์ เช่น แคโรทีน ลูทีน ซีอะแซนทิน แหล่งของแคโรทีน คือ ผักผลไม้ที่มีสีส้มหรือสีเหลือง เช่น แครอท มะละกอ ฟักทอง มะม่วง ส้ม ขนุน เสาวรส และแหล่งของลูทีนกับซีอะแซนทินคือ ผักโขม ผักคะน้า ข้าวโพดหวาน บร็อกโคลี ถั่ว และผลไม้ที่มีสีแดง ส้ม เหลือง
วิตามินซี ลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจกได้ถึง 45%
นอกจากลูทีนและซีอะแซนทินแล้ว ผลไม้ที่มีสีแดง ส้ม เหลือง ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีเลยทีเดียว โดยมีการวิจัยพบว่า หากรับประทานวิตามินซีวันละ 490 มิลลิกรัมขึ้นไป สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจกได้ถึง 45% เพราะวิตามินซีเป็นสารที่ใช้ในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของกระจกตาและเยื่อบุตา เช่นเดียวกับวิตามินอีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่อาจพบได้ในพวกถั่ว เมล็ดพืช ผักใบเขียว
การรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูงก็ช่วยบำรุงดวงตาได้เช่นกัน โดยให้ผลดีต่อเรตินา และเป็นสารสำคัญในการทำงานของเอนไซม์ ช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา สังกะสีพบได้ในเนื้อสัตว์ทุกชนิดและอาหารทะเล แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังวิธีปรุงอาหารด้วย เพราะหากปรุงด้วยวิธีการทอด หรือเลือกเนื้อสัตว์ชนิดติดมันมากเกินไป รับประทานบ่อยๆ นอกจากจะทำให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมอีกด้วย
กินอาหารเสริมวิตามิน ลดอาหารป่วยง่าย ปวดหัวบ่อย สัญญาณขาดวิตามิน
วิตามินบี 2 (Riboflavin)
ช่วยในการบำรุงสายตา เยื่อเมือกตาและม่านตา ถ้าขาด จะมีอาการเลือดออกในตา ตาไวต่อแสง อาการแสบตา ซึ่งทาง National Institute of Health ได้แนะนำขนาดต่อวันคือ 1.1-1.3 mg โดยจะพบวิตามินบี 2 ได้ในอาหารพวก ผลิตภัณฑ์นม เนื้อ ธัญพืชยังมีพืชสมุนไพรอีกหลายชนิดที่ผลต่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ช่วยลดการเสื่อมของตาเช่น ขมิ้น โสม แปะก๊วย ชาเขียว
สุดท้ายนี้นอกจากกินอาหารที่มีวิตามินบำรุงสายตาแล้ว หากจำเป็นต้องใช้สายตามากๆ แนะนำให้พักสายตาทุก 30 นาที โดยการมองต้นไม้หรือวัตถุสีเขียว หรืออาจกระพริบตาให้บ่อยขึ้น ซึ่งจะเป็นช่วยคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทดวงตา ช่วยลดความอ่อนล้าของตาได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
เทคนิคการกินอาหารเพื่อป้องกันเซลล์ ช่วยชะลอวัย เพิ่มอายุขัย
โภชนาการหลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เพิ่มการฟื้นฟู ไม่กลับมาเป็นซ้ำ!