สารที่ซ่อนอยู่ใน "ช็อกโกแลต" ของขวัญยอดฮิตคริสต์มาส คุมลดความดัน ช่วยอารมณ์ดี
วันคริสต์มาส หลายคนเลือกซื้อช็อกโกแลต เป็นของขวัญสุดพิเศษ แน่นอนว่าหากทานเยอะไปทำลายสุขภาพแน่นอน แต่หากทานแต่พอดีช่วยสุขภาพได้ ที่สำคัญควรเลือกดาร์กช็อกโกแลต จะเพิ่มประโยชน์มากกว่า
ช็อกโกแลต ของขวัญยอดฮิตช่วงเทศกาลแห่งความสุข นอกจากหาซื้อง่ายหากเลือกเป็นดาร์กช็อกโกแลต และทานแต่พอดี ก็ช่วยเรื่องสุขภาพได้เช่นกัน เพราะในความจริงแล้ว ช็อกโกแลตมีสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยป้องกันโรคได้อย่างหลากหลาย เช่น
- สารคาเฟอีน (Caffeine) มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ
- สารทิโอโบรมีน (Theobromine) ช่วยลดความดันโลหิต กระตุ้นการเต้นของหัวใจ สามารถลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้
โกโก้ ช่วยต้านเศร้า-เสริมภูมิ แพทย์แนะกินให้ถูกช่วยสุขภาพมากกว่า!
เทคนิคอาหารลดความดัน จำกัดโซเดียม เพิ่มผักทุกมื้อ เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ

- สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในกลุ่มโพลิฟีนอล (Polyphenol) ต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมความแข็งแรงของหลอดเลือดหัวใจและสมอง ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของโรคหัวใจได้
งานวิจัยเกี่ยวกับช็อกโกแลต
งานวิจัยในประเทศอิหร่าน โดยมีผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วย จำนวน 60 คน เมื่อทานช็อกโกแลตแบบดาร์กช็อกโกแลต (มีปริมาณโกโก้สูง 70-85%) และไวท์ช็อกโกแลต วันละ 25 กรัม เป็นเวลา 2 เดือน พบว่าความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่รับประทานดาร์กช็อกโกแลต โดยเชื่อว่า สารทิโอโบรมีน (Theobromine) ที่มีปริมาณมากในดาร์กช็อกโกแลต ช่วยลดความดันโลหิตได้ สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องไขมันในเลือดสูงจากการทานช็อกโกแลต แนะนำให้ทานเป็นชนิดดาร์กช็อกโกแลต ในปริมาณน้อยแทน เนื่องจากมีงานวิจัยสนับสนุนว่ายังมีประโยชน์ โดยพบงานวิจัยจากประเทศอิหร่าน ทดลองกับกลุ่มคนไข้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วนลงพุง 114 คน ทานดาร์กช็อกโกแลตเข็มข้น 74% ขนาด 20- 40 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน ผลที่ได้คือ ไม่มีนัยสำคัญในการเพิ่มระดับคอลเลสเตอรอลโดยรวม ไขมันชนิดเลว และ ไตรกลีเซอไรด์ ในผู้ป่วยกลุ่มนี้
งานวิจัยในประเทศสวีเดน ติดตามดูผู้ป่วยที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (heart attack) โดยเลือกเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานมาจำนวน 1,169 คน ให้กรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับปริมาณช็อกโกแลตที่รับประทานใน 12 เดือน จากนั้น นำมาแบ่งเป็นกลุ่มตามจำนวนครั้งของการรับประทาน แล้วตามดูคนทั้งหมดนี้ไปนานจนถึง 8 ปี พบว่ากลุ่มที่ทานช็อกโกแลตมาก มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ทานช็อกโกแลตเลย โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่าง โอกาสเสียชีวิต กับการรับประทานช็อกโกแลตนี้เป็นแบบแปรผันตามปริมาณที่รับประทาน (dose dependent) ซึ่งสรุปได้ว่า กลุ่มที่ทานช็อกโกแลตไม่เกินเดือนละครั้ง ลดอัตราตายได้ 27%, กลุ่มที่ทานช็อกโกแลตถึงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ลดอัตราตายได้ 44%, กลุ่มที่ทานช็อกโกแลตสัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นไป ลดอัตราตายได้ 66% (เมื่อเทียบกับกลุ่มไม่ทานช็อกโกแลต)
วารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ (British Medical Journal 2012) รายงานการวิจัยฉบับหนึ่ง ถึงการกินดาร์กช็อกโกแลต (dark chocolate) ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 10ปี จะช่วยป้องกันอุบัติการณ์ของโรคเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบ ที่ไม่ถึงตายได้ 70 รายต่อ 10,000 คน และป้องกันชนิดรุนแรงถึงตายได้ 15 รายต่อ 10,000 คน โดยการศึกษานี้ติดตามประชากรจำนวน 2,013 คน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือด โดยที่มีพุงโตเฉลี่ย 39 นิ้ว มีระดับเฉลี่ยของความดันตัวบน 1 มม. และมีไขมันคอเรสเตอรอล เฉลี่ยประมาณ 239 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โดยที่ค่าน้ำตาลสะสมยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเป็นโรคเบาหวาน และทั้งหมดมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 53.6 ปี โดยทั้งหมดวิเคราะห์เทียบกับปริมาณของสารโพลีฟีนอล (polyphenol)ในช็อกโกแลตดำที่เทียบเท่า 100 กรัมต่อวัน
ผลการวิจัยสรุปได้ว่าการรับประทานช็อกโกแลต “อาจ” ช่วยลดอัตราตายของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดในระยะยาวลงได้
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยในคนในแบบเชิงระบาดวิทยา จึงเป็นเพียงหลักฐานระดับกลางเท่านั้น และการทานในปริมาณมากเกินไปและขาดการออกกำลังกาย อาจทำให้เพิ่มระดับไขมันในเลือดและน้ำตาลในเลือดได้ในบางราย แม้ยังไม่มีงานวิจัยมายืนยันในเรื่องนี้ก็ตาม
เทคนิคเก็บผลไม้คงประโยชน์และวิตามิน ให้อยู่ได้นานที่สุด ลดการเน่าเสีย
ช็อกโกแลตทำให้อารมณ์ดี
- สารอะนันดาไมด์ (Anandamide มีความหมายว่า ความสุขในภาษาสันสกฤต) ทำหน้าที่ลดความเจ็บปวด ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายและกระตุ้นให้อารมณ์ดีขึ้น
- สารแฟนิลเอทิลามีน (Phenylethylamine-PEA) ช่วยสร้างสารสื่อประสาทช่วยในการลดความเครียด ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การรับประทานช็อกโกแลตเกิดความรู้สึก ‘feel good’ อีกทั้งยังเพิ่มพลังทางเพศอีกด้วย
- เลือกให้มาก กินให้พอดี การกินช็อกโกแลตให้มีประโยชน์สูงสุดควรเลือกดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ที่ผลิตจากผลโกโก้ ซึ่งมีปริมาณของโกโก้สูง 70-85% โดยแนะนำให้ทาน 50- 100 กรัม ต่อวัน ความถี่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโรคหัวใจ
ดาร์กช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมของน้ำตาลและนมน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย อีกทั้งแคลอรีในช็อกโกแลตมีปริมาณที่สูง ดังนั้นจึงควรกินช็อกโกแลตในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ทั้งนี้อาจเลือกทานเพื่อเพิ่มพลังงานก่อนการออกกำลังกาย หรือในเวลาที่เครียด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
“นมเปรี้ยว” มีโพรไบโอติกส์ ช่วยคุมหิว-ลดกลิ่นน้องสาว แต่ต้องระวังเรื่องน้ำตาล!
5 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ แก้ท้องผูก เบื่ออาหาร เสริมแคลเซียม