วิธีดูแลใจช่วยพาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหนีจากการฆ่าตัวตาย
โรคซึมเศร้า ภัยเงียบที่ป่วยจากด้านในจิตใจ และเป็นสาเหตุการฆ่าตัวตายที่ทุก 40 นาทีจะมีคนทำสำเร็จ 1 คน เช็กสัญญาณการคิดสั้นวิธีพาผู้ป่วยหนีจากความตายอย่างถูกต้อง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่าสถิติที่ชี้ว่าโรคซึมเศร้า ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยนี้ ทำให้มีการคิดฆ่าตัวตายและทำสำเร็จไปมากกว่า 1 ล้านคน ต่อปีหรือ 1 คน ทุก 40 นาที สาเหตุที่ทำให้คนคิดฆ่าตัวตายมีหลายทฤษฎี แต่ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคลของการ ฆ่าตัวตาย (Interpersonal Theory of Suicide) โดย แวน ออร์เดน (Van Orden) และคณะ (2010) ได้กล่าวถึงความเชื่อว่าคนที่เสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตายนั้นเกิดจากภาวะความรู้สึกที่
วิธีรับมือกับปัญหารุมเร้า-ภาวะเครียดสะสม ก่อนกระทบสุขภาพจิต
เช็ก 9 สัญญาณ “โรคซึมเศร้า” อาการแบบไหนควรพบแพทย์?
เกี่ยวข้องกับการทำให้ผู้ป่วยซึมเศร้าฆ่าตัวตาย 3 ประการ
- ความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
- การรู้สึกว่าตนเป็นภาระ
- พลังในการฆ่าตัวตาย หรือความไม่กลัวตาย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงคิดฆ่าตัวตายคือ การเผชิญเหตุการณ์ทางลบ เช่น ขัดแย้งกับคนที่มีความสำคัญต่อชีวิต ว่างงาน หรือมีความเจ็บป่วยทางร่างกาย ด้วยความรู้สึกผิด และมักโทษตัวเองอยู่เป็นทุน อาจเป็นแรงผลักดันให้ผู้ป่วยมีพลังที่จะทำร้ายตัวเอง เริ่มกลัว ตายน้อยลง และพยายามฆ่าตัวตายในที่สุด
สัญญาณเตือนบอกว่าผู้ป่วยกำลังคิดฆ่าตัวตาย
- บ่นเรื่องเบื่อชีวิต อยากตาย เช่น “รู้สึกเบื่อจัง ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม”
- การสงสัยในชีวิต เช่น เกิดมาทำไม คนเราทำไมถึงมีความทุกข์
- การพูดเป็นเชิงฝากฝัง สั่งเสีย เช่น “ฝากดูแลลูกด้วยนะ”
- การทำพินัยกรรมในเวลาที่ยังไม่สมควร
- การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย ว่าตนเอง รู้สึกผิด ล้มเหลว หมดหวังในชีวิต หรือคลิป วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย
ถ้าผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากำลังมีความคิดฆ่าตัวตายควรทำอย่างไร
เราควรถามเขาด้วยชุดคำถามเรียงลำดับตามนี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหา หรือรู้ว่าต้องป้องกันอย่างไร
- เมื่อพบว่าเขามีภาวะซึมเศร้าให้ถามว่า “ความเศร้านั้นมากจนทำให้เบื่อชีวิตไหม”
- ถ้าเขาตอบรับ ให้ถามต่อไปว่า “คิดอยากตายไหม”
- ถ้าเขาตอบรับ ให้ถามต่อไปว่า “คิดจะทำหรือเปล่า”
- ถ้าเขาตอบรับ ให้ถามต่อไปว่า “คิดจะทำอย่างไร”
- ถ้าเขาตอบรับ ให้ถามต่อไปว่า “เคยทำหรือเปล่า”
- ถ้าเขาตอบรับ ให้ถามต่อไปว่า “เคยทำอย่างไร”
- สุดท้าย ให้ถามเขาว่า “มีอะไรยับยั้งใจให้ไม่ได้ทำ หรือหยุดความคิดนี้ได้”
วิธีพาผู้ป่วยซึมเศร้าหนีจากความตาย
- พาผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323
- หากพบว่าผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงคิดสั้น ให้เก็บซ่อนวัตถุหรือสิ่งของที่เขาสามารถใช้ในการลงมือฆ่าตัวตาย เช่น ของมีคม เชือก ยานอนหลับ ยาฆ่าแมลง หรือยาอันตรายต่างๆ
- ชวนผู้ป่วยให้ลุกมาทำกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นเล่นกีฬาเบาๆ เล่นเกม ทำงานศิลปะ นอกจากจะลดโอกาสที่จะคิดฟุ้งซ่าน และคิดหดหู่แล้ว การเคลื่อนไหวร่างกายยังช่วยหลั่งสารความสุขอย่างเอ็นโดรฟินออกมา
- ฟังด้วยความตั้งใจ และท่าทีที่สบายๆ ไม่คะยั้นคะยอ และไม่ตัดสินใจแทน นั่นเพราะผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักมีความคิดว่าตัวเองเป็นภาระให้คนอื่นอยู่แล้ว ดังนั้น การจะให้ผู้ป่วยพูดคุยระบายความรู้สึก ต้องให้พวกเขารู้สึกก่อนว่ามีคนอยากรับฟัง และไม่กดดัน หรือตัดสินเขา สร้างความไว้วางใจ และบรรยากาศสบายๆ ให้ผู้ป่วยได้เล่าสิ่งที่อยากพูดออกมาเต็มที่ เพราะในบางครั้งเขาอาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรืออยากตาย หากว่าคนรอบข้างได้มีโอกาสรับฟัง จะได้สามารถป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
สัญญาณ “เครียดสะสม”นอนไม่หลับ-คิดวนเวียนละเลยเสี่ยงซึมเศร้า-วิตกกังวล
สิ่งที่ไม่ควรทำกับผู้ป่วยซึมเศร้า
- อย่าบอกปัด ผู้ป่วยให้ไปเข้าวัดฟังธรรมหรือทำจิตใจให้สงบ โดยไม่อยู่เคียงข้างพวกเขา เพราะผู้ป่วยจะรู้สึกทันทีว่าไม่มีที่พึ่งพา หรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่น่ารำคาญ และยิ่งตีตัวออกห่าง ส่งผลให้เกิดความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ได้
- อย่าทำเป็นไม่ได้ยิน หรือไม่อยากพูดถึงเมื่อผู้ป่วยพูดถึงการอยากตาย หลายๆ คนคิดว่าการเอ่ยหรือพูดคุยถึงเรื่องการฆ่าตัวตายกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอาจเป็นแนวโน้มให้ผู้ป่วยอยากทำ หรือชี้โพรงให้กระรอก แต่ในความเป็นจริงแล้วหากผู้ป่วยเอ่ยถึงการอยากตาย แล้วคนใกล้ตัวกลับมีท่าทีต่อต้าน หรือทำเป็นไม่สนใจเพื่อให้ผู้ป่วยเลิกคิด หรือมีคำพูดทำนองว่า “อย่าคิดมาก” “อย่าคิดอะไรบ้าๆ” ยิ่งทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแย่ลงอย่างมากว่าเราไม่รับฟังสิ่งที่เขารู้สึกคับข้องใจ ไม่มีวันจะเข้าใจเขาจริงๆ
- อย่ากดดันและเร่งรัด ถ้าผู้ป่วยยังอาการไม่ดีขึ้น ห้ามพูดหรือทำให้พวกเขารู้สึกว่า “เมื่อไหร่จะหาย” หรือ “หายได้แล้ว” เพราะผู้ป่วยจะยิ่งรู้สึกกดดัน และผิดหวัง หากอาการเพิ่งเริ่มดีขึ้น ความเครียดเหล่านี้จะยิ่งส่งผลให้จิตใจแย่ลง และอาจเป็นหนักกว่าเดิม
ควรเข้าหายินดีช่วยเหลือ พร้อมรับฟังอย่างตั้งใจ เข้าใจ ไปเป็นเพื่อนเมื่อพบจิตแพทย์เสมอ หากผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าบอกไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรืออยากทำร้ายตนเอง อย่าปล่อยให้อยู่คนเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก : สสส.และโรงพยาบาลเปาโล
“Dead Inside” ภาวะใจพังตายจากข้างใน ปล่อยเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า
“โรคซึมเศร้า”ส่งผลต่อวัยจริง แต่หากมองในแง่ดี ชีวิตยืนยาวมากกว่าแง่ลบหลายเท่า