อาการแพนิก เกี่ยวข้องกับระบบประสาทไม่ใช่แค่ขี้ตกใจ
แพนิก หลายคนคิดว่าเป็นอาการตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่จริงๆ แล้ว ผู้ที่ป่วยโรคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ เช็กสัญญาณและวิธีรักษา เพื่อสุขภาพจิตที่ดี
แพนิก หรือ Panic Disorder ถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่ได้รับความสนใจในยุคปัจจุบัน แต่รู้ไหมว่าอาการที่เราชอบพูดกันว่า “อย่ามาแพนิกน่ะ” แท้จริงแล้วมันคือโรคที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (Automatic Nervous System) ทำงานผิดปกติ และทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าโรคแพนิกนี้ก็ไม่ใช่แค่นิสัยขี้ตระหนกตกใจ อย่างที่ชาวเน็ต ชาวโซเชียลยุคนี้เป็นกันด้วย
โรคแพนิก หรือ Panic Disorder คืออะไร ?
โรคที่เกิดจากฮอร์โมนลดหรือเปลี่ยนแปลงกระทันหัน
เปิด 9 ข้อเกณฑ์วินิจฉัย “โรคซึมเศร้า” เป็นนานแค่ไหนควรพบแพทย์
รู้หรือไม่? เดิน 10 นาที ก็ช่วยคลายเครียด ลดวิตกกังวลช่วยเยียวยาใจได้
จึงเกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน และเป็นอาการที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยที่ไม่มีสาเหตุหรือมีเรื่องให้ต้องตกใจ นั่นทำให้บางคนที่มีอาการมักคิดว่าตนเองเป็นโรคหัวใจ และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และผู้ป่วยโรคแพนิกมักจะรู้ตัวว่าเป็นโรคแพนิกก็ต่อเมื่อมีอาการดังกล่าวไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ก แล้วพบว่าหัวใจแข็งแรงเป็นปกติ แพทย์จะสงสัยและอาจวินิจฉัยว่าเป็นโรคแพนิก
อาการโรคแพนิก
-
ใจสั่น ใจเต็นแรง แน่นหน้าอก
-
เหงื่อออกมาก หนาวๆ ร้อนๆ
-
หายใจถี่ หายใจตื้น หายใจไม่อิ่ม
-
วิงเวียน โคลงเคลง รู้สึกตัวลอย คล้ายจะเป็นลม
-
รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะกลัวตาย
-
ควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกอยู่คนเดียวไม่ได้
เมื่อมีลักษณะอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นและสงสัยว่าอาจเป็นโรคแพนิก สิ่งที่ต้องทำเป็นลำดับแรกคือการไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แม้ว่าโรคแพนิกจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สัมพันธ์คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง อื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ และหัวใจวายเฉียบพลัน
ตารางดื่มน้ำเปล่าเพื่อสุขภาพ เพิ่มความสดชื่น เพิ่มสมดุลร่างกาย
ถึงจะไม่อันตรายแต่ต้องรักษา
โรคแพนิกรักษาได้ด้วยการทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ การตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือรักษาด้วยการทำจิตบำบัดซึ่งอาจหาต้นเหตุของความกลัวได้ แต่ผู้ป่วยก็สามารถลดความวิตกกังวลของตนเองได้เช่นกัน เช่น
-
การฝึกการหายใจเพื่อควบคุมสติ เมื่อเกิดอาการ
-
ควบคุมอาหารบางประเภทที่กระตุ้มให้อาการกำเริบอย่างคาเฟอีนหรือน้ำอัดลม
ซึ่งการรักษาที่ได้ผลดีคือการรักษาแบบองค์รวม นอกจากรับประทานยาอย่างต่อเนื่องแล้ว จำเป็นต้องมีการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปด้วย โดยให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบำบัด ปรับแนวคิด ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยอยู่ร่วมกับโรคนี้ได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ ให้พยายามพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผ่อนคลายจากความเครียดและความวิตก ดูแลจิตใจตัวเองให้เข้มแข็งมีความสุขกับทุกวันและดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน
5 เคล็ดลับดื่มน้ำดูแลไต และข้อสังเกตดื่มน้ำน้อยเกินไป?
9 สัญญาณโรคเครียด เสี่ยงสภาพจิตใจทรุด วิธีรักษาด้วยยา-จิตบำบัด