สธ.เผย ฤดูหนาวผู้ป่วยโควิด 19 อาจสูงขึ้น ย้ำเด็กเล็กฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยแนวโน้มผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มขึ้น 4-5% เป็นไปตามคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีการเปิดเทอมและมีกิจกรรมจำนวนมากจนถึงปีใหม่ ขณะที่ประชาชนฉีดวัคซีนลดลง ย้ำประชาชนฉีดเข็มกระตุ้น กลุ่มเด็กเล็ก 6 เดือน - 4 ปี เร่งรับวัคซีน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณว่าช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวจะมีการติดเชื้อและป่วยด้วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปิดเทอม รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ฮาโลวีน ลอยกระทง ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปีใหม่ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 30 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2565 มีผู้ป่วยโควิด 19 รวม 2,759 ราย เฉลี่ย 394 รายต่อวัน
หน้าหนาวปีนี้ ไทยเข้าสู่ฤดูหนาวปลายเดือนต.ค.จนถึงปลาย ก.พ. 66
วัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็กถึงไทยพรุ่งนี้ คิดออฟฉีดทั่วประเทศ 12 ต.ค.
เพิ่มขึ้นกว่า 2-3 สัปดาห์ก่อนประมาณ 4-5% ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบมี 333 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 169 ราย และผู้เสียชีวิต 40 ราย เฉลี่ย 5 รายต่อวัน ยังไม่เพิ่มขึ้นจากเดิมมากการติดเชื้อและการป่วยที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากที่คนไทยเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ลดลง ทำให้ภูมิต้านทานเริ่มน้อยลงด้วย เมื่อประกอบกับการมีกิจกรรมต่างๆ ช่วงปลายปีมากขึ้น จึงทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ จึงต้องเร่งรัดให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมทั้งการฉีดวัคซีนในเด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 4 ปี ให้มากขึ้น
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าวัคซีนโควิด 19 มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยประเทศไทยมีการฉีดมาแล้วกว่า 143 ล้านโดส พบว่าช่วยป้องกันการเสียชีวิตของประชาชนได้อย่างน้อย 5 แสนคน และป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงมากกว่า 1 ล้านคน ดังนั้น เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในช่วงฤดูหนาวที่จะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น
รณรงค์ฉีดวัคซีน “เด็กเล็ก” หลังจำนวนคนรับวัคซีนไม่เข้าเป้า
จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กอายุ 6 เดือน - 4 ปีที่ยังไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน จะมีโอกาสป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูงกว่าเด็กโต ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองพามารับวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย