เตือน! อย่าหลงเชื่อ‘ปลาเหล็ก-กระทะเหล็ก’เพิ่มธาตุเหล็กป้องกันโลหิตจางได้
กรมอนามัย เตือนอย่าหลงเชื่อกรณีการส่งต่อข้อมูลบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับปลาเหล็กและกระทะเหล็กช่วยเพิ่มธาตุเหล็กจากการปรุงประกอบอาหาร เนื่องจากยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันแก้ไขปัญหาโลหิตจาง
นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการส่งต่อข้อมูลบนโลกออนไลน์ เกี่ยวกับปัญหาการขาดธาตุเหล็ก โดยมีข้อมูลงานวิจัยที่ระบุว่าการนำปลาเหล็กลงไปร่วมปรุงประกอบอาหาร เพื่อจะช่วยเพิ่มธาตุเหล็กในอาหารนั้น จากข้อมูลเชิงวิชาการ พบว่า ปลาเหล็กที่ได้รับการเตรียมตามสูตรดังกล่าว (Lucky Iron Fish) สามารถให้ธาตุเหล็กเมื่อต้มในน้ำเดือดได้จริง แต่ผลจากการวิจัย ชี้ให้เห็นว่า การดูดซึมและการที่ร่างกายนำธาตุเหล็กไปใช้ (Iron Bioavailability) น้อยมาก
5 สารอาหารสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์ รักษาสมดุลฮอร์โมนโรคไม่กำเริบ
ไขคำตอบ"กระทะเหล็ก" เสริมธาตุเหล็ก?
เมื่อเทียบกับการได้รับวิตามินเสริมธาตุเหล็ก Ferrous Sulfate จึงไม่พบการเพิ่มขึ้นของระดับเฟอร์ริติน (Ferritin) ที่เป็นโปรตีนที่จับกับธาตุเหล็กในเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดธาตุเหล็กหรือโรคโลหิตจางได้ ดังนั้น ปลาเหล็กจึงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันแก้ไขปัญหาโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีการส่งต่อข้อมูลการขายสินค้ากระทะเหล็ก ที่อวดอ้างสรรพคุณ ว่ามีธาตุเหล็กและช่วยเพิ่มธาตุเหล็กในอาหาร ถือเป็นการโฆษณาเกินจริง เพราะยังไม่มีงานวิจัยใดสามารถยืนยันได้ สาเหตุหลักที่ผู้ปรุงอาหารนิยมนำกระทะเหล็กมาใช้ปรุงประกอบอาหาร เพราะร้อนเร็ว ให้ความร้อนสูง ใช้เวลาในการปรุงอาหารน้อย และยังทำให้อาหารสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการน้อยลง แต่ข้อเท็จจริงคือ ความร้อนสูงที่ใช้ ในการปรุง จะทำให้อาหารไขมันสูงบางชนิด ก่อให้เกิดสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หากไม่ระวังให้ดี การปรุงอาหารด้วยกระทะเหล็กอาจทำให้อาหารไหม้ได้ง่าย ดังนั้น การปรุงอาหารด้วยกระทะเหล็กจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะอาหารหรือวัตถุดิบที่ใช้ ปริมาณ และชนิดของน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารอีกด้วย
เทรนด์สุขภาพ! “กรีกโยเกิร์ต” โปรตีนสูงช่วยลดน้ำหนักเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
ทั้งนี้การขาดธาตุเหล็กส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดกับผู้หญิง ข้อมูลจากการสำรวจด้านโภชนาการของเด็กในภูมิภาคเอเชีย Southeast Asian Nutrition surveys (SEANUTS) ปี 2554 – 2555 พบว่าเด็กไทย อายุ 6 เดือน – 12 ปี มีความชุกภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 10.4 โดยพบความชุกในเขตชนบทสูงกว่าเขตเมืองถึง 2 เท่า และจากรายงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย พบความชุกโลหิตจางในกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15–45 ปี ร้อยละ 22.7 รวมถึงข้อมูล จากระบบคลังสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข ยังพบความชุกโลหิตจางในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ ปี 2562 - 2564 พบร้อยละ 16.4, 15.1 และ 14.6 ตามลำดับ
ทั้งนี้อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่
- เนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเนื้อแดง เลือด ตับ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ปลา เป็ด ไก่ และอาหารทะเล
- ธัญพืช เช่น ซีเรียล ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี แป้ง และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เป็นต้น
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม ผักบุ้ง บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
- ผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ สตรอว์เบอร์รี ส้มโอ กีวี เป็นต้น ร่วมกับอาหารในมื้อนั้น จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้ง่ายขึ้น
“หม้อทอดไร้น้ำมัน” ใครว่าไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด เสี่ยงเกิดโรค-ไฟไหม้
ภาวะโลหิตจาง รู้ไม่ทันสัญญาณภัยเงียบ เสี่ยงหัวใจวาย-น้ำท่วมปอด