วิจัยชี้ “ใจลอย” อาจช่วยยกระดับความคิดสร้างสรรค์-ทำให้อารมณ์ดีได้
งานวิจัยชี้ การใจลอยอาจทำให้เรามีความสุขและเกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น “ถ้าเราทำอย่างถูกวิธี”
เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะ “ใจลอย” หรือที่บางคนเรียกว่า “ฝันกลางวัน” โดยปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปในที่ที่ต้องการ บางคนอาจรู้สึกดีและรู้สึกว่าความคิดสร้างสรรค์เบ่งบาน
ในขณะเดียวกัน ก็มีงานวิจัยบางชิ้นที่บอกว่า การท่องไปในจิตใจอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรือทำให้คนเกิดความหดหู่ แต่งานวิจัยบางชิ้นไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างการครุ่นคิดอย่างหดหู่ กับการฝันกลางวันที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานบวก
เปลือกตากระตุก ไม่ใช่ลางบอกเหตุแต่เป็นสัญญาณบอกโรค
รู้จัก“โรคใหลตาย”อาการนอนหลับไม่ตื่น อันตรายถึงชีวิต
วางน้ำแข็งบนท้ายทอยไม่ช่วยรักษาโรค อย่าหาทำส่งผลเสียระยะยาว
ขณะนี้ องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ใหม่กว่ากำลังศึกษาว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ในเวลาที่เราปล่อยให้จิตใจของเราล่องลอยไป แม้ว่าการวิจัยเหล่านี้จะยังคงอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็พอจะมีข้อสรุปได้ว่า การใจลอยอาจทำให้เรามีความสุขและเกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น “ถ้าเราทำอย่างถูกวิธี”
ภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน รักษาไม่ทันอันตรายถึงชีวิต
ใจลอยอาจดีต่อความคิดสร้างสรรค์
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลการี ประเทศแคนาดา ระบุว่า การฝันกลางวันจะช่วยยกระดับความคิดสร้างสรรค์ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราใจลอยหรือฝันกลางวันถึงเรื่องอะไร
ในการศึกษานี้ นักวิจัยใช้เทคโนโลยีคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองของเราเมื่อเรามีความคิดฟุ้งซ่านประเภทต่าง ๆ
ในการทำเช่นนั้น พวกเขาให้คนที่ทำกิจกรรมที่ธรรมดา ๆ ซ้ำ ๆ และขัดจังหวะพวกเขาเป็นครั้งคราวเพื่อดูว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ พร้อมกับคอยติดตามการทำงานของสมองอย่างต่อเนื่อง
ผู้เข้าร่วมการศึกษาบางคนมีความคิดที่ “ถูกจำกัด” โดยมักคิดเกี่ยวกับการทะเลาะกับคนรัก คิดเกี่ยวกับวิธีจัดการปัญหาในการทำงาน เป็นความคิดที่จดจ่ออยู่กับปัญหาบางอย่าง
ขณะที่ผู้ร่วมการศึกษาอีกกลุ่มมีความคิดที่ “เคลื่อนไหวอย่างอิสระ” มักคิดกระโดดข้ามจากสิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งหนึ่ง บางคนฝันกลางวันเกี่ยวกับวันหยุดพักผ่อนในอิตาลีในอนาคต คิดเรื่องการซื้อชุดว่ายน้ำใหม่ คิดเพ้อฝันถึงแฟนเก่า
เมื่อทีมวิจัยจับคู่ความคิดของกลุ่มตัวอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสมอง พวกเขาพบว่า ในกลุ่มที่มีความคิดเพ้อฝัน คิดเคลื่อนไหวอิสระ จะมีคลื่นอัลฟา (Alpha Wave) เพิ่มขึ้นในเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า
คลื่นอัลฟามีค่าระหว่าง 8-12 เฮิร์ตซ มักเกิดขึ้นเมื่อผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเมื่อสมองอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งใด
จูเลีย แคม หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า “มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ ... โดยทั่วไปหากเกิดคลื่นอัลฟาในเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า ผู้คนจะทำงานได้ดีขึ้นกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์”
แคมบอกว่า กิจกรรมของสมองประเภทนี้สัมพันธ์กับ “การคิดนอกกรอบ” โดยความคิดสร้างสรรค์ต้องใช้การคิดที่ไปได้หลายทิศทางและไม่ถูกจำกัด ซึ่งการใจลอยฝันกลางวันแบบเคลื่อนไหวอิสระจะเอื้ออำนวยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ง่ายขึ้น
แคลร์ เซเดเลียส จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานตาบาร์บารา ได้ศึกษาความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวันของนักเขียนและบุคคลทั่วไปโดยปราศจากสภาพแวดล้อมในห้องปฏิบัติการ
ผลการวิจัยพบว่า จิตใจของผู้คนที่มักคิดถึงเรื่องธรรมดา ๆ เช่น การวางแผนการเดินทางไปห้าง มักไม่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์
แต่เมื่อจิตใจของผู้คนล่องลอยไปในทางที่แปลกประหลาดมากขึ้น เช่น การจินตนาการถึงเรื่องที่เหลือเชื่อหรือสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและตลกขบขัน กลุ่มนี้มักจะมีความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น และรู้สึกมีแรงบันดาลใจมากขึ้น ที่น่าสนใจคือ สิ่งนี้เกิดขึ้นกับทั้งนักเขียนและบุคคลทั่วไป
นี่แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมโยงระหว่างการใจลอยกับความคิดสร้างสรรค์นั้นซับซ้อนกว่าที่เคยคิดไว้ โดยขึ้นอยู่กับว่า ความคิดของคุณเคลื่อนไหวอย่างอิสระแค่ไหน เนื้อหาของความคิดในตอนใจลอยของคุณเป็นอย่างไร และความสามารถที่จะลบความกังวลหรือความเครียดในชีวิตประจำวันออกไป
การใจลอยช่วยทำให้อารมณ์ดีได้
การศึกษาหนึ่งในปี 2013 พบว่า ในเวลาที่คนใจลอยไปคิดเรื่องที่น่าสนใจ อารมณ์ของพวกเขาสามารถดีขึ้นได้จริง ๆ ในทำนองเดียวกัน จากการศึกษาอื่น ๆ พบว่า การคิดถึงคนที่คุณรัก หรือคิดถึงอนาคต จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการคิดถึงอดีต
ผลการวิจัยจากอีกการศึกษาในปี 2021 ชี้ให้เห็นว่า การใจลอยอย่างอิสระสามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้จริง
โดยในการศึกษานี้ ผู้เข้าร่วมจะได้รับการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือแบบสุ่มเป็นเวลา 3 วัน เพื่อรายงานต่อทีมวิจัยว่า ณ ขณะนั้น พวกเขารู้สึกอย่างไร (บวกหรือลบ) และความคิดของพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่หรือไม่อย่างไร
หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว นักวิจัยพบว่า เมื่อความคิดของผู้คนไม่ได้ทำงาน พวกเขามักจะรู้สึกในแง่ลบมากขึ้น แต่ถ้าความคิดของพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระ มันจะมีผลตรงกันข้าม ช่วยให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
“ผลการวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่าการใจลอยก็มีด้านบวกของมันอยู่” นักวิจัยสรุป
สรุปว่าการใจลอยเป็นสิ่งดี?
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ แม้การใจลอยจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และทำให้อารมณ์ดีได้ แต่ก็ต้องจำไว้ว่า การใจลอยในเวลาที่ต้องจดจ่อกับงาน หรือเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น เช่น ตอนขับรถ ตอนทำงานกับเครื่องมือเครื่องจักร อาจเป็นปัญหาได้
เราควรใจลอยก็ต่อเมื่อเราทำกิจกรรมธรรมดา ๆ ที่ไม่ต้องการสมาธิ เช่น การถักนิตติ้งหรือวาดรูป มันอาจจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรือคิดไอเดียสร้างสรรค์ขึ้นมาได้
การฝึกสติและสมาธิยังสามารถช่วยให้เรารู้เท่าทันความคิดและการใจลอยของเราได้ เราต้องสามารถเตือนตัวเองได้เสมอหากความคิดของเราในช่วงที่ใจลอยกำลังลอยไปในทิศทางที่อันตรายหรือเป็นด้านลบ
โดยสรุปแล้ว หากไม่พูดกันด้วยหลักวิทยาศาสตร์ การใจลอยก็ถือได้ว่าเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ และอาจจะควรทำ เพื่อให้สมองและจิตใจของเราได้พักผ่อนจากเรื่องเครียด ๆ ที่เราต้องจดจ่อกับมัน หากในเวลาว่าง คุณลองเหม่อมองออกไปยังทิวทัศน์ต่าง ๆ ให้ความคิดได้ไหลไปอย่างอิสรเสรี คุณอาจพบว่า คุณมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากขึ้นหรืออาจมีความสุขขึ้น
เครียดจิตตกช่วงโควิด-19 จิตแพทย์แนะ3วิธีรับมือสู้ไวรัสร้ายทุกระลอก
เรียบเรียงจาก University of California, Berkeley
ภาพจาก Shutterstock