“ภูมิแพ้” ปล่อยไว้นานอาจเรื้อรัง หายได้ด้วยการทดสอบ skin prick test

ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเช่นนี้ หลายคนคงมีอาการร้อนๆหนาวๆ ไอจามฟึดฟัดคัดจมูก เป็นอันรู้กันว่าภูมิแพ้ได้กำเริบขึ้นมาอีกแล้ว แต่รู้หรือไม่ ฤดูกาลสามารถทำให้ภูมิแพ้หนักขึ้นได้ เช่นเดียวกับปัจจัยต่างๆที่ก่อภูมิแพ้ก็มากขึ้น 3-4เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน ร่วมไขสารพัดความลับได้ที่นี้!

จริงหรือไม่? ที่ภูมิแพ้ฤดูฝนกับฤดูหนาวพบภูมิแพ้มากกว่าฤดูร้อน

ศ.เกียรติคุณ นพ.ปกิต วิชยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้สมิติเวช รพ. สมิติเวช ธนบุรี เปิดเผยว่า "เป็นเรื่องจริง" 

อยากชนะภูมิแพ้ต้องทำอย่างไร? รู้ทันตัวกระตุ้นบอกลาปัญหาผิว-ไอจามเรื้อรัง!

สิวเรื่องไม่สิวที่ต้องรีบแก้ไข ปัจจัยและวิธีรักษาเลี่ยงอักเสบลุกลาม

แต่ที่เห็นชัดคือในอากาศมีเกสรและหญ้าทั่วชั้นบรรยากาศในประเทศไทย ขณะที่ในฤดูฝนจะถูกชะล้างลงมาทำให้ตัวก่อภูมิแพ้ในชั้นบรรยากาศน้อยลง

ข้อมูลจากโรงพยาบาลสมิติเวช พบว่า ปัจจุบันโรคภูมิแพ้พบมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยมีอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้มากขึ้น 3-4 เท่า เมื่อเทียบกับเมื่อ10 ปีก่อน

• โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ร้อยละ 23-30
• โรคหืดร้อยละ 10-15
• โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ร้อยละ 15
• โรคแพ้อาหารร้อยละ 6  

สืบเนื่องจากวิถีของคนไทยเปลี่ยนไป ประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อยู่กันอย่างแออัด บ้านเรือนเปลี่ยนเป็นแบบแบบตะวันตกเพดานเตี้ยประดับประดาไปด้วยเครื่องเรือน ปิดหน้าต่างตลอดเวลา ทำให้มีไรฝุ่นและเชื้อรามาก อีกทั้งหลายบ้านยังนิยมเลี้ยงสุนัข แมวในบ้าน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่เราสูดหรือสัมผัสเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลายิ่งกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ขึ้น

อาการของโรคภูมิแพ้

• โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นกับระบบใดในร่างกาย

ระบบหายใจ มีอาการตั้งแต่น้ำมูกไหล จาม คันจมูก คัดจมูก (คนทั่วไปเรียกว่าโรคแพ้อากาศ) หรืออาจมีอาการรุนแรง เช่น ไอ แน่นหน้าอก มีอาการหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหืด

• ผิวหนัง เช่น ผื่นลมพิษ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) หรือ ผื่นแพ้จากการสัมผัส สาเหตุใหญ่ของลมพิษมักเกิดจากอาหารและยา ส่วนผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักเกิดขึ้นในเด็กที่มีพันธุกรรมของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาจเกิดจากการแพ้อาหาร เช่น นมวัว ไข่ ซึ่งทำให้เกิดผื่น โดยมักเกิดบริเวณแก้มในเด็กเล็กหรือข้อพับในเด็กโต
• ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้อาหาร
• ระบบอื่นๆ (ที่มักมีอาการรุนแรง) ผู้ป่วยบางรายมีอาการแพ้มาก อาจมีอาการเกิดขึ้นในทุกระบบ เช่น หอบ ลมพิษ ช็อค หรืออาจรุนแรงจนเสียชีวิตภายหลังจากการกินอาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ถั่วลิสง  ฯลฯ หรือภายหลังได้รับยา เช่น เพนิซิลลิน

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น มลพิษในอากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ฝุ่นละอองตามถนน ควันจากท่อรถยนต์และจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้ในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

“ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้” คันจนเป็นตุ่มน้ำเหลือง วิธีการรักษา-ไม่กำเริบ

สาเหตุของโรคภูมิแพ้

• พันธุกรรม ประมาณร้อยละ 30-50 แต่ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึงร้อยละ 50-70 ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลยมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียง 10%
• โรคภูมิแพ้บางอย่าง สาเหตุจากพันธุกรรมไม่ค่อยเป็นปัจจัยสำคัญมากนัก เช่น ลมพิษ แพ้จาการสัมผัส เช่น แพ้เครื่องประดับ แพ้เครื่องสำอาง เป็นต้น
• สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าสู่ร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น  ไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ  การรับประทาน หรือการสัมผัส  สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย

สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ยากเพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น เกสร เชื้อราในอากาศ หรือไรฝุ่นในบ้าน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดของโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น อากาศเย็น มลพิษ ฝุ่นละอองตามท้องถนน ควันบุหรี่ด้วย

มีอาการอย่างไร จึงสงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ สามารถเข้ารับคำปรึกษาการรักษาจกาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือทำการทำการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง skin prick test เพื่อตรวจหาว่าผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใดบ้างซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ไม่ต้องเจ็บตัว

วิธีทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังskin prick test

• แพทย์หยดน้ำยาซึ่งเป็นสารสกัดลงบนท้องแขนหรือบริเวณหลัง
• ใช้เข็มสะกิดเบาๆ (วิธีนี้มักทำได้ในเด็กอายุ 2  ปีขึ้นไปที่ให้ความร่วมมือ)
• หลังจากสะกิด แพทย์จะอ่านผลใน 15-20 นาที และจะรู้ว่าแพ้สารอะไร

คนไข้ต้องงดรับประทานยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ก่อนการทดสอบ 1 สัปดาห์ และหากมีการใช้ยาสเตียรอยด์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทดสอบ

การทดสอบดังกล่าวจะทำให้ทราบว่าแพ้สารอะไร ก็จะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น รู้สาระสุขภาพดีๆ ได้ที่รายการ Health me please ทุกวันศุกร์ เวลา 13.40 น. ทาง PPTV

ขอบคุณข้อมูลจาก : รายการ Health me please และ โรงพยาบาลสมิติเวช

“ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้” คันจนเป็นตุ่มน้ำเหลือง วิธีการรักษา-ไม่กำเริบ

ทริคเอาชนะ“ภูมิแพ้ขนสัตว์” เรื่องเล็กๆที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนเลี้ยงสัตว์