หลงเชื่อลัทธิประหลาดสะท้อนแผลในจิตใจแพทย์แนะเทคนิคคลายเครียด
ปัจจุบันความเครียดคือปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเจอ จนทำให้ไม่มีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจและอาจผลักดันให้คนเลือกเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ แพทย์แนะวิธีรับมือและป่อนคลายความเครียดสะสม
กรมสุขภาพจิต ระบุถึงสาเหตุการหลงเชื่อผิดๆลัทธิประหลาดหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ พื้นฐาน คือ คนที่ขาดความมั่นคงในจิตใจในทุกด้านหรือบางด้าน เช่น หากถูกชักจูงเรื่องสุขภาพ อาจเพราะอยู่ในสภาพของโรคที่หาคำตอบไม่เจอ อย่างบางคนที่อยู่ในกลุ่มที่เชื่อว่า โรคที่ร้ายแรง รักษาไม่หาย เช่น มะเร็ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อย่างเบาหวาน ซึ่งมีรายละเอียดของการดูแล และตนเองไม่สามารถจัดการได้
ซึมเศร้าหลังหยุดยาว สะท้อนความเครียด-กดดัน ต่างจากซึมเศร้าปกติอย่างไร?
ปีใหม่นี้! เริ่มต้นสุขภาพจิตที่ดี แนะสิ่งที่ควรทำให้ชีวิตดีกว่าเดิม

ก็มีแนวโน้มจะเชื่อสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกว่ามีสิ่งยึดเหนี่ยว มีความหวัง แต่หากเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอก็จะมีความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้
ตรงกันข้ามหากอยู่ห่างไกลจากแหล่งข้อมูลที่ดี และไม่ได้มีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี จนเกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่นก็ยิ่งเกิดข้อจำกัด สิ่งแวดล้อมก็สำคัญ หากมีครอบครัว กลุ่มเพื่อน ชุมชนที่เอนเอียงไปกับความเชื่อประจำท้องถิ่น อาจมีมิติของไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง ย่อมมีแนวโน้มเชื่อไปในทิศทางนั้นได้ เมื่อมีองค์ประกอบหลายอย่างมารวมกัน พอมีคนที่มีความคมชัดกว่า ผู้ที่หวั่นไหว ไม่มั่นคงก็จะคล้อยตามคนที่แข็งแรง ชัดเจนกว่า มีการตามกันไป เราจะเห็นปรากฎการณ์แบบนี้เรื่อยๆ แต่รูปแบบจะแตกต่างกันไป
ซึ่งหากดูข้อความข้างต้น ต้นตอของความเชื่อแบบผิดๆ คือความเครียดและปัญหาในจิตใจของแต่ละคนซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัว เพราะคนเรามักจะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดไม่เหมือนกัน เพราะเมื่อเกิดความเครียดเราจะแสดงออกมาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และพฤติกรรม บางคนหงุดหงิดง่าย บางคนป่วยง่าย บางคนนอนไม่หลับ หากเรารู้วิธีจัดการ และบรรเทาความเครียดต่างๆ เหล่านั้นได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้เราพร้อมรับมือกับความเครียดได้มากขึ้น
5 วิธีบำบัดความเครียด
- ออกกำลังกายคลายเครียด
เราสามารถแก้ได้โดยการให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟีนทำงานบ้างด้วยการออกกำลังกาย อย่างน้อยๆ ถ้าเรารู้สึกตัวว่ากำลังเครียดอยู่ การได้ออกจากโต๊ะทำงานไปยืดเส้นสาย หรือเดินขึ้นลงบันไดอาจทำให้เราหลุดโฟกัสเรื่องเครียดสักพักหนึ่ง จริงๆ แล้วการออกกำลังกายในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการออกแรงอย่างหนัก เหงื่อตกมากๆ แต่เป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลทางสุขภาพจิต เพียงแค่เดินปกติสัก 10 นาที หันเหความสนใจไปในทางบวก ก็ได้ผลแล้ว แต่ถ้ามีเวลาหลังเลิกงานควรจะไปออกกำลังกายอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ 30 นาที แค่ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์ก็เพียงพอให้ฮอร์โมนแห่งความสุขทำงานได้อย่างเต็มที่บ้าง
- นั่งสมาธิ ฝึกจิต ลดเครียด
หากลองสังเกตตัวเองเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกเครียด จะเหมือนมีก้อนความคิดบางอย่างวิ่งอยู่ในหัวตลอดเวลา ซึ่งเมื่อมีความเครียดวิ่งวนอยู่ในหัวตลอดทำให้เราต้องคิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเครียดนั้นๆ เราจะจัดการแก้ปัญหากับมันอย่างไรดี การจมอยู่กับความเครียดอาจทำให้เราไม่อยากทำอย่างอื่นเลย ดังนั้น การแก้ปัญหาง่ายๆ เมื่อรู้สึกวิตกกังวลมากเกินไป ลองหาเวลาทำสมาธิ หรือสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกลมหายใจ ลองกำหนดลมหายใจเข้า - ออกง่ายๆ ทำให้ชีพจรเต้นช้าลง เอาใจไปโฟกัสการกำหนดลมก็ทำให้เราลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้ประมานหนึ่งเลย
หน้าหนาวเสี่ยงซึมเศร้า! เช็กภาวะSADช่วงเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
- จัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน
นอกจากการจัดสรรเวลาการทำงาน และการใช้ชีวิตส่วนตัวให้ดีจะช่วยให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรี่องของการที่เราไม่เอาความเครียดต่างๆ ไปให้กับครอบครัวด้วย 8 ชั่วโมงการทำงานหลังจากนั้นควรจะหยุดคิดเรื่องงาน ไม่นำงานไปทำในขณะที่ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ให้โฟกัสกับเรื่องครอบครัว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการบริหารความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
- ผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง
แม้ว่าเราจะจัดการปัญหาความเครียดต่างๆ ยังไม่ได้ทันที แต่การที่เราเอาตัวเองออกมาจากความเครียดได้สักพักหนึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีได้ทำตามใจตัวเองบ้าง เช่น การนอนดูหนัง ฟังเพลงสบายๆ หรือออกไปหากิจกรรมทำที่นอกจากการนั่งจมกับความคิดเครียดๆ แน่นอนว่าช่วยให้สมองปลอดโปร่งสักพัก และอาจทำให้เรากลับมาคิดแก้ไขปัญหาหรือเรื่องเครียดได้ด้ว
ทั้งนี้หากพบคนใกล้ชิดมีการหลงเชื่อลัทธิประหลาดหรือมีความเชื่อแบบผิดๆ ควรเข้าช่วยเหลือพร้อมประเมินสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ สิ่งสำคัญต้องปกป้องสุขภาพก่อน หากมีผลต่อสุขภาพต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือทั้งกายและใจ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์สุขภาพจิตดูแลทั่วประเทศ หากครอบครัวหรือญาติมีข้อกังวล หรือแนวโน้มหลงเชื่อง่ายสามารถปรึกษา รพ.จิตเวชได้ทุกแห่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสุขภาพจิต และ โรงพยาบาลเปาโล
ภาวะซึมเศร้า “Smiling depression” ยิ้มเก่งใจแหลกสลาย โอกาสฆ่าตัวตายสูง
เช็กสัญญาณ“ซึมเศร้า” ข้อแนะนำใช้ยาต้านเศร้าและอาการจิตเวชที่คล้ายคลึง