วิจัยพบ “ไข้หวัดใหญ่” เพิ่มเสี่ยงหัวใจล้มเหลวได้ถึง 10 เท่า
แพทย์เผยงานวิจัย ที่ยืนยันว่าไข้หวัดใหญ่ส่งผลกระทบต่อหัวใจโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการหัวใจล้มเหลวได้ถึง 10 เท่า ขณะที่มีอีกข้อมูลหนึ่งชี้ชัดว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นอันตราย ผู้ที่มีโรคประจำตัวและกลุ่มเสี่ยง เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน แพทย์แนะฉีดวัคซีนลดความเสี่ยงได้
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส (Influenza Virus) นับโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจที่มีการระบาดใหญ่อย่างกว้างขวางเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่ผู้คนทำงานในอาคาร ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศร่วมกันหรือการเดินทางอาศัยระบบการขนส่งมวลชนที่ผู้คนแออัด การป้องกันโรคโดยการฉีดวัคซีนในบุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายหลังเกิดโรคไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด,โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีความต้านทานร่างกายไม่แข็งแรง
อาการไข้หวัดใหญ่
ไข้, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยตัว, เหนื่อย, ไอแห้งๆ, เจ็บคอ, มีน้ำมูก, ในเด็กอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้ จะมีโอกาสในการเกิดโรคได้ตลอดปี แต่ระยะเวลาที่จะมีการระบาดมากในฤดูฝนและไวรัสไข้หวัดใหญ่จะติดต่อผ่านเสมหะของผู้ป่วยโดยการไอหรือจามแล้วเข้าสู่ปากและจมูกของผู้ใกล้ชิด ส่วนน้อยเกิดจากการสัมผัสกับเสมหะของผู้ป่วยที่ติดกับสิ่งของเครื่องใช้แล้วมือที่สัมผัสเชื้อมาสัมผัสที่ปากหรือจมูกจะเกิดโรคได้เช่นกัน
ภาวะแทรกซ้อน
- ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- ภาวะขาดน้ำ
- ทำให้โรคประจำตัวที่เป็นอยู่แย่ลง เช่น ภาวะหัวใจวาย, หอบหืด, เบาหวาน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีโอกาสเสียชีวิตได้
โดยจากข้อมูลพบว่า มีงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Journal of the American Heart Association ยืนยันว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นอันตรายต่อหัวใจมากกว่าที่เราคิด เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เข้าสู่ร่างกายจะทำให้หัวใจและหลอดเลือดต้องทำงานหนักมากขึ้น ในขณะที่มีอาการอักเสบเกิดขึ้นในร่างกาย เม็ดเลือดขาวจะถูกผลิตและส่งไปยังอวัยวะนั้นๆ เพื่อเตรียมต่อสู้กับไวรัส การระดมกำลังไปสู้กับไวรัสนี้ก่อให้เกิดอาการภาวะลิ่มเลือดขึ้นส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้น เลือดจึงถูกส่งไปเลี้ยงสมองและหัวใจไม่เพียงพอ
- อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีโรคไข้หวัดใหญ่ระบาด
- โรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการหัวใจล้มเหลวได้ถึง 10 เท่า
- คนทุกวัยต่างได้รับผลกระทบจากอาการไข้หวัดใหญ่ แต่จะมีอัตราความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกัน
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจล้มเหลวจากไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 45%
- เมื่อได้รับคำแนะนำโดยตรงจากคุณหมอและพยาบาลให้ฉีดวัคซีน จะมีผู้ยอมรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 14 เท่า
อากาศหนาวฝุ่นPM2.5เยอะ! แยกอาการ ภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โควิด 19
ถึงแม้จะเป็นที่ทราบดีว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่จะ “กลายพันธุ์” ในทุกๆ ปี แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ก็ยืนยันที่จะออกประกาศให้ ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงของอาการเจ็บป่วย เพราะมีข้อมูลมากมายยืนยันว่าผู้ป่วยโรคหัวใจที่ไม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี จะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่เป็นโรคหัวใจและได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว การได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จึงมีผลดีต่อร่างกายไปไกลกว่าเพียงแค่การป้องกันไข้หวัดประจำปีนั่นเอง
ปกติควรฉีดวัคซีนก่อนช่วงที่จะมีการระบาดของโรค ในประเทศไทยควรฉีดระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายนของทุกปี โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคหลังการฉีดวัคซีน 2 สัปดาห์ จำเป็นต้องฉีดวัคซีนทุกปีเนื่องจากเชื้อไข้หวัดมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดและวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคไวรัส ไข้หวัดใหญ่เฉพาะสายพันธุ์ที่ฉีดได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น และการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนสายพันธุ์ได้บ่อย วัคซีนที่ผลิตแต่ละปีจะเป็นวัคซีนเฉพาะสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในปีนั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องฉีดวัคซีนปีละครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอนแก่น และ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่
ไข้หวัดใหญ่ ภาวะแทรกซ้อนอันตรายถึงชีวิต ฉีดวัคซีนก็เป็นซ้ำได้แต่รุนแรงน้อยกว่า
แพทย์เผยโรคหัวใจไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว อันตรายและอาการแตกต่างกัน