นายสิระ เจนจาคะ อดีตคู่ปรับของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคพรรคไทยศรีวิไลย์ มองว่า พฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ยังคงมีพฤติกรรมข่มขู่คนอื่น
อย่างกรณีที่เขาเคยถูก นายมงคลกิตติ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ทำนองว่า จะต่อยให้ฟันร่วงหมดปาก พร้อมคำหยาบคาย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ตั้งแต่ วันที่ 20 ส.ค. 2564 แต่ทางคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร กลับยังไม่มีข้อสรุปความผิดของนายมงคลกิตติ์ ทั้งที่มีพฤติกรรมความผิดชัดเจน
“สิระ”แจ้งจับ“เต้ มงคลกิตติ์”โพสต์ ขู่ เลาะฟันร่วงหมดปาก
“เต้ มงคลกิตติ์” ลั่น ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ หลังปะทะ “สิระ” กลางรัฐสภา
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรณี นายสิระ บอกว่า ติดตามดูตลอด แต่ล่าสุด ตัดสินใจว่า สัปดาห์หน้าจะไปยื่นเรื่องให้ สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบจริยธรรมของนายมงคลกิตติ์ อีกทาง เพราะไม่อยากให้นายมงคลกิตติ์ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ในทางที่ผิด
นายสิระ ยังฝากถึงแฟนคลับของนายมงคลกิตติ์ ว่า นายมงคลกิตติ์ แท้จริงแล้วเป็นคนที่ใจไม่ถึง ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง เช่น ตอนที่ขู่จะต่อยเขา ก็โพสต์เฟซบุ๊กให้เรื่องราวใหญ่โต แต่พอลับหลังก็มากราบอกขอว่าอย่าเอาเรื่อง
นายสิระ ย้ำว่า หากอยากรู้ว่า นิสัยที่แท้จริงของนายมงคลกิตติ์ เป็นอย่างไรให้ถามตนเพราะรู้ดีที่สุด พร้อมแสดงความเป็นห่วงแม่แตงโม และท้าให้นายมงคลกิตติ์ ยอมลงนามเซ็นสัญญาว่าจะรับผิดชอบร่วมกับแม่แตงโม กรณีฟ้องคนบนเรือในข้อหาฆาตกรรม หากเป็นลูกผู้ชายพอ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายมงคลกิตติ์เชื่อถือไม่ค่อยได้
สำหรับการยื่นเรื่อง กับ ป.ป.ช. ดูเหมือนจะไม่ต้องรอนายสิระแล้ว เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ( 2มิ.ย.) ทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางไปยื่นหนังสือร้องต่อ ปปช. ให้ตรวจสอบนายมงคลกิตต์ กรณีมีพฤติกรรมข่มขู่ทนายเดชาและทีมทนายคนอื่นๆ รวมถึงตนด้วย ว่าเข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2564 ข้อ 10
เน้น 6 ประเด็นหลัก คือ ไม่รักษาจรรยาบรรณ, ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี, ไม่ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดี, ไม่เคารพและละเมิดสิทธิผู้อื่น และ ไม่วางตนเป็นที่เชื่อถือของประชาชน โดยตั้งคำถามว่า คนแบบนี้สมควรเป็นส.ส.หรือไม่
ซึ่งหากป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา แล้วศาลรับเรื่อง นายมงคลกิตต์ จะพ้นจากตำแหน่งสส.ทันที และถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริง โทษที่จะได้รับ คือ ห้ามลงส.ส.ตลอดชีวิต, ห้ามดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมือง และห้ามเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
โดยทนายรัชพล มองว่า มีแนวโน้มสูงที่ส.ส.เต้จะถูกลงโทษ เพราะด้วยพฤติการณ์และหลักฐานที่มีค่อนข้างชัดเจน
ส่วนประเด็นที่ นายมงคลกิตติ์ น้ำตาคลอ-ถอดบัตรส.ส. และบอกเตรียมลาออกเองหลังจบคดี ทนายรัชพล ฝากถึงนายมงคลกิตติ์ ว่า ให้ลาออกเลย ถ้าอยากช่วยคดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร ตำแหน่งไหน ก็ช่วยได้เหมือนกัน
สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์นี้ พบว่า นายมงคลกิตติ์ เจอคดีร้องเรียน แล้ว 3 คดี คือ นายษิทรา ไปร้องเรียนกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ให้สอบจริยธรรม นายเดชา ไปร้องเรียนต่อ กรรมาธิการป.ป.ช. ชุดของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช และ ที่ นายรัชพล ไปยื่นร้องกับป.ป.ช