8 ก.ค.65 เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครั้งที่ 10/2565 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข จะรายงานสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นการหารือแนวทาง การขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรคโควิด-19 หลังการระบาดใหญ่ พร้อมกันนี้ จะรายงานแผนการให้บริการวัคซีนโควิด - 19 ในเดือนสิงหาคม 2565 ด้วย
ชาวบ้านผวา ลอบทิ้งกองขยะขวดยาหวั่นแพร่เชื้อ
ด่วน! นายกฯอังกฤษ" บอริส จอห์นสัน" ประกาศลาออก
ที่ประชุม ศบค. จะหารือ ลดการกักตัวของผู้ป่วยโควิด-19 จากเดิมกำหนดให้มีการกักตัว 7+3 วัน คือกักตัว 7 วัน สังเกตอาการอีก 3 วัน ลดเหลือ 5+5 แทน
นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างๆ จะได้รายงานผลการดำเนินงานปัญหาและอุปสรรค รวมถึงข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม ขณะเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง จะรายงานเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ต้องจับตาว่า ที่ประชุม ศบค. จะพิจารณาแผนการเดินหน้าให้โควิด-19 เป็น Endemic หรือการเป็นโรคประจำถิ่นตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ ศบค.พิจารณาด้วย
"บิ๊กตู่" ขับรถดำนาข้าว ลั่นเข้ามาทำให้สงบ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง
สร้างภูมิคุ้มกัน ให้ตัวเองแบบง่ายๆ ทำได้ทันที
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 หรือ ศบค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่ามีเรื่องที่จะเรียนให้ที่ประชุมรับทราบ คือ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานผลการติดตามการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา และระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จากสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 BA.5 ซึ่ง WHO แสดงความกังวลในเรื่องนี้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรมโควิด-19 เพราะหลายประเทศ ผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค
ซึ่งอาจจะทำให้การติดตามสถานการณ์สายพันธุ์ใหม่ยากยิ่งขึ้น และ ขอร้องให้ประเทศต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.4 , BA.5 มากขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อาจจะทดแทนสายพันธุ์เดิม แม้ยังไม่มีข้อมูลว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีการแพร่เชื้อที่รุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิมอย่างไร แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
ส่วนการแพร่ระบาดในประเทศไทยก็มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะทำให้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อยและรักษาตัวที่บ้านมากขึ้น แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง รวมทั้งสุ่มตรวจ และติดตามการกลายพันธุ์โดยเฉพาะ BA.4 BA.5 เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และกำหนดมาตรการต่อไป พร้อมขอให้รายงานความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน รวมทั้งติดตามการผ่อนคลายกิจกรรม เพื่อช่วยขัยเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เพราะหากคำนึงถึงสาธารณสุขเพียงด้านเดียว ด้านอื่นจะไปต่อไม่ได้ ทั้งกำชับให้เข้มงวดมาตรการ Universal prevention และเร่งรัดการวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากยิ่งขึ้น