ปรากฎตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ "เศรษฐา ทวีสิน" ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2566 อย่างไรก็ตามวันนี้เขายังปฏิเสธการเป็น 1 ใน 3 ชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในสังกัดพรรคเพื่อไทย
“เศรษฐา ทวีสิน” เป็นประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้ เขาเคยทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า “6-8 ปีที่ผ่านมาผู้นำของเราไม่ได้นำประเทศไทยไปมีจุดยืนในเวทีโลกเลย ผู้นำคนต่อไปผมว่าต้องกล้าที่ะเดินออกไปสู่เวทีโลก”
แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย | กาแฟดำ EP79 | สุทธิชัย หยุ่น
ชลน่าน ลั่น "อุ๊งอิ๊งค์"ท้องไม่กระทบแคนดิเดตฯ
ต่อมามีผู้ทวีตข้อความถามว่า “ถ้าท่านมาอยู่เพื่อไทยผมเลือกเพื่อไทยครับ” ที่เขาตอบกลับว่า “ผมอยู่เพื่อไทยครับ”
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ “เศรษฐา” เพิ่งให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ กาแฟดำ ออกอากาศ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 ที่ PPTV HD ช่อง 36 ประเมินความเป็นไปได้ในการเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคเพื่อไทย
PPTV ประมวลคำตอบของเขามานำเสนออีกครั้ง
“เศรษฐา” มองว่า การดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ ไม่ว่าจะนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี มีคนเหมาะสมหลักสิบคน สำหรับวันนี้ เวลานี้ ส่วนตัวยังไม่ตัดสินใจ
เขายอมรับว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันจริงกับพรรคเพื่อไทย พูดคุยกันถึงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่ได้รับปาก แต่เวลานี้ “เศรษฐา” ยังไม่ได้ปฏิเสธ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองเร่งให้มีการยุบสภา คำตอบวันนี้ของเขาคือ “ยังไม่เอา”
“ถ้ายุบสภาวันนี้ แล้วบอกเอาชื่อผมไป ผมบอกเลยว่าไม่เอา จบ วันนี้ไม่เอา ยังไม่เอา”
แม้บางกระแสจะมองว่า ชื่อของ “เศรษฐา” ได้รับคำชื่นชมทันทีหลังมีกระแสข่าวขึ้นบัญชี 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่เขาบอกว่า คนเราไม่ควรหลงรักเสียงที่อยากได้ยินมากเกินไป
ผมบอกตัวเองเสมอ และบอกผู้นำหลายคนในองค์กรว่าอย่าไปหลงรักเสียงที่ตัวเองอยากได้ยินเกินไป จริงๆ แล้ว เสียงที่มีประโยชน์มากที่สุด มักเป็นเสียงที่ตัวเองไม่อยากได้ยิน
ในฐานะเอกชนรายใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ “เศรษฐา” บอกว่า ได้ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองของเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่หากจะเป็นไปทำหน้าที่ “คนขับ” ต้องประเมินอีกหลายอย่างว่าไหวหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ เพราะยังเห็นหลายข้อที่ยังเป็นข้อบกพร่องอยู่
“ถ้าถามว่าวันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี เลขาฯ จะเป็นใคร ผมยังไม่รู้เลย ที่ผ่านมามีแต่เลขาฯที่ทำงานด้วยกันมา 30 ปี แต่เลขาฯ ครม. เลขาฯนายกฯ นี่คนละเรื่อง คิดแค่นี้ก็เหงื่อตกแล้ว แต่ถ้าให้ผมไปเจรจาเรื่องการค้า ประสานต่อรองทางการค้า ผมคิดว่าทำได้”
ถ้ามาแล้วจะเอาตำแหน่งอย่างเดียว ผมคิดว่ามันไม่แฟร์กับประชาชนหรือคนในพรรคที่เขาทำงานการเมืองมา จริงๆ แล้ว ไม่ได้เป็นความใฝ่ฝันของผมที่จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี หรือจะเป็นรัฐมนตรี เป็นรองนายกรัฐมนตรีก็ตามที ฉะนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของบุคคล แต่เป็นเรื่องของการทำงานเพื่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า ชื่อของ “เศรษฐา” จะส่งผลถึงการเกิดแลนด์สไลด์หรือไม่ เขาตอบกลับกันทันทีว่า “ผมไม่ประเมินค่าตัวเองขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าคิดอย่างนั้นก็ผิดแล้ว มันดูหลงรักตัวเองไปหน่อย ผมไม่ได้เป็นที่รู้จักขนาดนั้น นอกเขต กทม.และปริมณฑลไม่มีใครรู้จักผมหรอก”
“ถ้าตัดสินใจว่าจะไปแล้ว มันก็ต้องไป ไปแล้วสมมติออกมาได้ 160 คน ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลอยู่ดี เราก็กลับมาเหมือนเดิม”
หลายเรื่องที่เราชอบ เช่น กินอาหาร ท่องเที่ยว ดูฟุตบอล แต่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเสียสละมาก มันคือ 7 วัน 24 ชั่วโมง เราต้องทำหลายอย่าง ผมติดสุข ผมยอมรับ แต่ถ้าเกิดจะตัดสินใจทำงานแล้วก็ต้องทำให้ได้ เพราะมันก็ต้องเสียสละ
“พรุ่งนี้เพื่อไทยอาจจะเปิดตัวหรือมีคนใหม่มาแล้ว ผมก็ยินดีไม่มีปัญหา บทบาทอะไรก็ช่วยได้ ไม่ใช่นายกฯ ไม่ใช่รองนายกฯ ไม่ใช่รัฐมนตรีก็ยังช่วยได้หมด ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง ไม่ได้ยึดติดอะไร”
ทั้งหมดเป็นข้อความระหว่างบรรทัดจาก “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ทุกคนต่างคาดการณ์ว่ามีชื่ออยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แม้ว่าเวลานี้เขายังยืนยันว่า วันนี้จะยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็ตาม
ติดตามในรายการ "กาแฟดำ" ทุกวันศุกร์ เวลา 21.40 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 รับชมย้อนหลังทาง Website และ YouTube PPTVHD 36 เท่านั้น