อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งย้ายของนาย รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ เขาบอกว่า ได้รับทราบข่าวการเคาะกะลา เรียกรับผลประโยชน์มาตลอด แต่ไม่คิดว่า จุดที่ตัวเองอยู่จะเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย เพราะ เป็นพื้นที่ ที่มีความสำคัญและมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ไข ที่ผ่านมาเขาเป็นหัวหน้าอุทยานดังกล่าว ก็แก้ปัญหาต่อเนื่อง และเข้าใจมาตลอดเวลา ผู้บังคับบัญชา สนับสนุนการทำงาน
เปิดไทม์ไลน์ร้องเรียน "รัชฎา" อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนถูกจับคาโต๊ะทำงาน ปมรีดส่วย
แฉกลโกงเงินอุทยานฯ ไขปริศนา 5 ล้านบาทในห้องทำงานอธิบดี
จนกระทั้ง ตำแหน่งถูกเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน อดีตหัวหน้าอุทยานคนนี้ ยืนยันว่า เขาไม่ได้หวงตำแหน่ง เพราะ มองว่า ถ้ามีคนใหม่มาก็ต้องถามระดับปฏิบัติงานก่อน แต่ปรากฎว่าไม่มี ทำให้ต้องถูกโยกย้ายกลับไปต้นสังกัดเดิม
เมื่อถามว่า เขาเคยได้รับการเสนอให้จ่ายเงิน เพื่อแลกกับการได้อยู่ตำแหน่งเดิม เหมือนที่มีการแฉกันก่อนหน้านี้หรือไม่ อดีตหัวหน้าอุทยานคนดังกล่าว บอกว่า เขาไม่เคยได้รับการติดต่อใดใด เชื่อว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย เพราะ ในกรมฯ ทราบกันดีว่าเขาทำงานด้านการปราบปราม อาจเป็นเพราะกังวลว่าถ้ายื่นข้อเสนอมาจะถูกแฉ สิ่งเดียวที่เจอคือ ถูกสั่งย้ายแบบไม่ได้ตั้งตัว
สำหรับคำว่า แมวมอง เป็นอีกคำศัพท์หนึ่ง ที่ตั้งแต่เราไล่เรียงเรื่อง การทุจริตในกรมอุทยานฯ พบว่ามีการพูดกัน ซึ่ง แมวมองในที่นี่ คล้ายกับแมวมองดารา คือ จะมีคนสอดส่อง คัดเลือก ว่า ใครดูน่าจะรับข้อเสนอเรื่องการจ่ายส่วย ก็จะมีการไปติดต่อคุยกัน หรือ ใครดูท่าทางไม่น่าจะยอม กลุ่มนี้จะถูกย้ายออกจากตำแหน่ง เฉยๆ ไม่ได้รับการติดต่อใดใด
เมื่อถามว่า การถูกสั่งย้ายออกจากตำแหน่ง กระทบอย่างไรกับการทำงานของอดีตหัวหน้าอุทยานฯ บ้าง เขาบอกว่า การทำงานที่อุทยานฯเดิม เขาทำหน้าที่ปราบปรามกลุ่มตัดไม้ ลักลอบฆ่าสัตว์ป่า รวมถึงเรื่องรีสอร์ตบุรุก และ อื่นๆอีกหลายเรื่อง เพราะ ทำงานสายปราบปราม ทำให้ที่ผ่านมา มีคดีความฟ้องร้องจำนวนมาก
แต่ละเดือน ต้องไปขึ้นศาล เดินทางไปให้ปากคำในคดีต่างๆ เฉลี่ย เดือนละ 3-4 ครั้งการถูกสั่งย้ายทำให้ต้องเดินทางบ่อยขึ้น มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวมากขึ้น เพราะ ต้องไปค้างโรงแรม จ่ายเงินเอง รวมถึง มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยด้วย
สำหรับการให้ปากคำของ อดีตหัวหน้าอุทยานคนนี้ เป็นพยานในส่วนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ แต่ตามข้อมูลที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระบุ คือ จะมีพยานที่เกี่ยวข้องกับ การเรียกรับเงินด้วยอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งประเด็นนี้ต้องรอติดตามว่าจะมีการให้ข้อมูลอย่างไร เพราะ หลายฝ่ายกังวลว่า อาจไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะ อย่างที่ทราบกัน การจ่ายเงินแลกผลประโยชน์เป็นการยินยอมของ 2 ฝ่าย