เลือกตั้ง 2566 : เบื้องลึก! แฉ"พิธา"ถือหุ้นITV บังเอิญหรือเกมตัดตอน?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ข้อมูลมาจาก รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 บริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน เมื่อ 26 เมษายน 2566 เวลา 14.00น. เป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM)

มีผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายภาณุวัฒน์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมด้วยตัวเอง ถามว่า บริษัทไอทีวีมีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่

ซึ่งในเอกสารมีการบันทึกคำตอบว่า “ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทและมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินนิติบุคคลตามปกติ”

  ประเด็นนี้ ทำให้ถูกมองว่า ทำไม ชายคนนี้ ถามคำถามเรื่อง บริษัทไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่

เลือกตั้ง 2566 : เปิดหลักฐาน“เรืองไกร”เอาผิด“พิธา”ปมถือหุ้นสื่อ

เลือกตั้ง2566 : "สนธิญา" จี้ กกต.เร่งรัด ปมหุ้นสื่อของ "พิธา"

ซึ่งถัดจากนั้น หากเราไล่ไทม์ไลน์ช่วงเวลาการยื่นร้องเรียนเกี่ยวกับหุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปรากฎว่า  9 พฤษภาคม 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้ข่าวว่ากำลังจะยื่นร้องเรียนเรื่องหุ้นสื่อ ITV ของนายพิธา ทั้งหมด 42,000 หุ้น

ในวันเดียวกัน มี ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ชื่อ นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ออกมาแสดงความเห็นเรื่องหุ้นสื่อของนายพิธา  นายนิกม์ เคยอยู่พรรคอนาคตใหม่มาก่อน

จากนั้น ย้ายมาอยู่ภูมิใจไทย เขายกตัวอย่าง การถือหุ้น ITV ของตัวเอง โดยเล่าว่า ตอนแรกเขาก็เคยถือหุ้นนี้เหมือนกัน แต่เห็นกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จึงมีการจัดการหุ้นของตัวเองก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งรวมถึง มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องที่นายพิธา ออกมาบอกว่า หุ้นดังกล่าว คือ หุ้นมรดก โดย นายนิกม์ แสดงความเห็นว่า ไม่น่าใช่ การถือหุ้นของผู้จัดการมรดก

ถัดจากนั้น 1 วัน คือ 10 พฤษภาคม นายเรืองไกร ก็ยื่นเรื่องร้องเรียนกับ กกต.ตามที่ประกาศไว้

ไทม์ไลน์นี้ถูกตั้งคำถามว่า เป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นขบวนการ ทีมข่าวประสานไปที่นายนิกม์ แต่เขาไม่สะดวกให้ข้อมูลเพิ่มเติม

  ขณะที่เมื่อนำข้อสังเกตนี้ไปถามนายเรืองไกร เขายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน  และไม่เคยรู้จักกับนายนิกม์ มาก่อน รวมถึงย้ำว่า ไม่ได้รู้จักนายภาณุวัฒน์ ชายที่ถามคำถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ส่วนตัว มองว่าการถามในที่ประชุมก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามปกติ ส่วนตัว ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่วิจารณ์เรื่องการถือหุ้นของนายพิธาตัวเองได้เห็นผ่านสื่อซึ่งพบว่าข้อมูลที่นำไปพูดยังไม่ครบถ้วนด้วยซ้ำ

 เมื่อถามว่าแล้วได้ข้อมูลมาจากไหน นายเรืองไกร ตอบแค่ว่า เป็นนักการเมือง แต่ไม่ได้ระบุว่า เป็นใคร

อีกประเด็นที่มีการพบข้อมูล คือ มีการพบว่า นายนิกม์ เป็นเจ้าของคลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วปรากฎว่า นายภาณุวัฒน์ มีชื่อ เป็นผู้จัดการคลินิกดังกล่าวด้วยข้อมูลนี้ เป็นข่าวตามสื่อออนไลน์

และเมื่อย้อนไปดูเฟซบุ๊กชื่อนายนิกม์ น่าสนใจกว่าเดิม เพราะ พบว่า 24 เมษายน (ก่อนที่จะประชุมผู้ถือหุ้น ITV วันที่ 26 เมษายน) พบว่ามี การโพสต์ข้อความ ว่า “นักการเมืองที่กำลังถือหุ้น ITV เตรียมตัวประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และมอบตัวกกต.ด้วยนะครับ หัวหน้าพรรคหนึ่งถือ 42,000 หุ้น”

ในโพสต์มีการใส่ภาพ เอกสารเชิญประชุม ในวันที่ 26 เมษายน ด้วย เรื่องนี้ นายเรืองไกร ย้ำว่าเขาไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จักกับ 2 คนนี้ ส่วนการยื่นหลักฐานขอตรวจสอบเรื่องหุ้นนายพิธา เขาไปเอาหนังสือรับรอง จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า งบประมาณการประชุมประจำปี 2566 มาตรวจสอบเอง และเมื่อตรวจสอบพบชื่อนายพิธา เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้หยุดการตรวจสอบที่ตรงนั้น ยังมีการตรวจสอบรายชื่อนักการเมือง หรือผู้สมัคร ส.ส.คนอื่นอีกว่ามีการถือหุ้นหรือไม่ จนเจอชื่อของ เอ้ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ร่วมถือหุ้นด้วยยืนยันว่าไม่ได้โจมตีใครคนใดคนหนึ่ง

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบของกกต. จนถึงตอนนี้ นายเรืองไกร บอกว่า ยังอยู่ในกระบวนการ ส่วนตัวเขา บอกว่า หาก กกต. ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ล่าช้า จนไม่ทันประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและเปิดสมัยประชุมรัฐสภา มองว่าสามารถให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายไหนก็ได้ เข้าชื่ออย่างน้อย 50 คนขึ้นไปส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยประเด็นถือหุ้นสื่อ ของนายพิธาได้โดยตรงเพื่อความรวดเร็ว เหมือนเช่นกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รวมทั้งตัวเองจะไปเสนอแนะกับ วุฒิสมาชิก ให้เข้าชื่อ 1 ใน 4 ของวุฒิสมาชิกทั้งหมด ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธาเช่นเดียวกัน

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ