นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “8 พรรคไปคุยกันครับ แม้มติรัฐสภา เสียงข้างมาก 394 ต่อ 312 เสียง ตีความข้อบังคับ 41 ไม่สามารถเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ ซ้ำในสมัยประชุมนี้ได้ แต่ ในข้อบังคับข้อเดียวกัน ยังระบุว่า "เว้นแต่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต ในเมื่อพิจารณาเห็นว่า เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป"
8 พรรค เสนอ พิธา เป็นเหตุการณ์หนึ่ง แต่หากเปลี่ยนเป็น 9 พรรค หรือ เพิ่มพรรค 1 เสียง ก็คือเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป หากพรรคก้าวไกล ยังอยากสู้กันด้วยแง่มุมของกฎหมาย ก็สู้กันในมุมนี้แหละ เว้นแต่ ก้าวไกล จะโยนผ้าขาว
ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า บางช่วงบางตอนระบุว่า “ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ผ่านมา ชีวิตของประชาชนต้องถูกเอารัดเอาเปรียบจากเหล่านายทุน ไม่ต่างจากคนที่ถูกกดให้นอนหงายใต้น้ำคลำ แล้วต้องคาบลำไม้ไผ่ ไว้คอยหายใจ ผลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม เป็นวันที่ประชาชน ดึงตัวเองให้ขึ้นมาจากน้ำคลำได้สำเร็จ ..
พวกเรารู้ดีว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ มันไม่ง่าย ถ้าง่ายก็คงไม่จำเป็นต้องมีพวกเราอยู่ในวันนี้ ต่อให้พวกเราถูกเตะตัดขาให้หกล้ม พวกเราก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ …
ต่อให้พวกเราต้องล้มอีกกี่ครั้ง พวกเราก็จะพยายามลุกขึ้นยืน ปรับแผนใหม่ และเดินหน้าต่อไปอย่างมุ่งมั่น รอบคอบกว่าเดิม ต่อให้ล้มจนลุกไม่ไหว พวกเราก็เต็มใจที่จะให้คนรุ่นหลัง เหยียบแผ่นหลังของพวกเราแล้วก้าวเดินต่อไป … สู้ไปด้วยกัน กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม อีกแล้วครับ
ส่วนประเด็นปมหุ้นการถือหุ้น ITV ของนายพิธา ซึ่งกลายเป็นชนวนให้นายพิธา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่สส.ชั่วคราว ล่าสุด โดย น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้ทวิตเตอร์ระบุว่า วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 มีหมายเรียกจาก สน.ทุ่งสองห้อง ให้ ฐปณีย์ไปเป็นพยานคดีหุ้นไอทีวี
โดยก่อนหน้านี้ ฐปณีย์ ได้ทำสกู๊ปพิเศษในรายการข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา