"ศักดิ์สยาม" ไม่กังวล ศาลรัฐธรรมนูญใกล้วินิจฉัย ปมถือหุ้น

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่น่าสนใจ กรณี สส. จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) 

เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่

ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ว่า นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย

ขณะที่ นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยกรณีที่มีผู้ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายศักดิ์สยาม หลังพบว่า ยังคงถือหุ้นและเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วน บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นว่า ศาลได้นัดไปอภิปรายเพื่อทำให้พยานหลักฐานครบก่อนจะวินิจฉัย ส่วนคำวินิจฉัยของศาลจะมีผลย้อนหลังไปถึงขณะปฎิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ คงจะต้องรอดูคำวินิจฉัยของศาล ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า มีอะไรที่อยากชี้แจงเพิ่มหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่มี ได้ชี้แจงไปครบทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องนี้จะกระทบต่อเรื่องอื่นหรือไม่นั้น ต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งตนพร้อมน้อมรับ

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ไม่กังวลกับคดีดังกล่าวนี้ และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้ยื่นไป ซึ่งตนได้ยืนยันตั้งแต่แรกและในคำชี้แจงก็ไม่ได้แถลงข่าว เชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยมีความยุติธรรม

ศาล รธน.สั่งส่งหลักฐานเพิ่ม คดี “ศักดิ์สยาม-หจก.บุรีเจริญ”

ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ สอบ "ศักดิ์สยาม" ขัด รธน.ปราบโกง

ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขีดเส้น 15 วันชี้แจง

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะกระทบต่อการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน

เมื่อถามว่า หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เป็นทางลบต่อตนเอง จะเกี่ยวข้องกับสมัยหน้าหรือไม่นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาล พร้อมย้ำว่าไม่กังวลว่า คดีนี้จะไม่กระทบต่อการกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในครั้งหน้ารวมถึงโควต้ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ตนพร้อมรับคำวินิจฉัย