ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้พิจารณาร่างแถลงนโยบายรัฐบาล ที่คาดว่าจะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายน 2566
สำหรับร่างคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี มีความยาว 44 หน้า แบ่งเป็นรายละเอียดคำแถลงนโยบาย 14 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นภาคผนวก เพื่อแสดงความสอดคล้องระหว่างนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี
"เศรษฐา"แจง คำแถลงนโยบายไม่มี "รถไฟฟ้า 20 บาท"
เอกชน จ่อยื่นสมุดปกขาวให้ "เศรษฐา"แก้ปากท้อง
ทั้งนี้พบว่า ร่างแถลงนโยบายฉบับนี้ มีการกล่าวถึงนโยบายเร่งด่วน 4 ข้อ โดยมีรายละเอียดตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน ได้แก่
กรอบระยะสั้น รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง ประกอบกับการเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่งาเร่งด่วนและรวดเร็ซ
กรอบระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลจะเสริมขีดความสามารถใหกับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน
นโยบายการเติมเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet จะทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนที่จะกระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ใส่เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจและกระจายไปยังทุกพื้นที่ให้หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้ถึงฐานราก เกิดการจับจ่ายใช้สอย ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่จะขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้น นำไปสู่การจ้างงาน สรางอาชีพ และเกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกหลายรอบ รัฐบาจะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบของภาษี
ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายแรก คือ การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ด้วยการพักหนี้เกษตรกร รวมถึงมีมาตรการช่วยประคองภาระหนี้สินและต้นทุนการเงินสำหรับภาคประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
นโยบายเร่งด่วนถัดมา คือ การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน รัฐบาลจะสนับสนุนให้เกิดการบริหารจัดการราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในทันที
นอกจากนั้น จะผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ที่ถือเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น และสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยตั้งเป้าเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวด้วยการอำนวยความสะดวก ปรับปรุงการขอวีว่า จัดทำ Fast Track VISA สำหรับผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสิ้นปี
ขณะเดียวกันจะผลักดันการพัฒนาการบริหารจัดการทุกขั้นตอนการบริการที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย รวมถึงการปรับปรุงระบบคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยปรับปรุงสนามบินและจัดการเที่ยวบินของสนามบินทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณเที่ยวบินให้สามารถนำนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศได้มากขึ้น แก้ปัญหาทุจริต และปราบปรามการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
นโยบายสุดท้าย คือ แก้ปัญหาความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อให้คนไทยได้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติให้ความสำคัญกับการทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมออกแบบกฎ กติกาที่เป็นประชาธิปไตยทันสมัย และเป็นที่ยอมรับร่วมกัน รวมถึงการหารือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญในรัฐสภา เพื่อให้ประเทศสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
และจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส แลเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ
โปรแกรมวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023 ไทย พบ จีน รอบชิงชนะเลิศ
ประกาศฉบับที่ 21 เตือน! 34 จังหวัด “ฝนตกหนักถึงหนักมาก”
ออกหมายจับ "อิทธิพล คุณปลื้ม" คดีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารมิชอบ