ย้อนไทม์ไลน์ก้าวไกล จากนโยบายแก้ 112 สู่คำวินิจฉัยยุบพรรค!

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เปิดไทม์ไลน์ คดี “พิธา-ก้าวไกล” ปมหาเสียงแก้ 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ก่อนนำไปสู่ปลายทางศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย สั่งยุบพรรคก้าวไกล ตามคำร้องที่คณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครอง และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

พร้อมสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 2 ชุด ที่ดำรงตำแหน่งช่วงเวลา 24 มี.ค. 2564 - 31 ม.ค. 2567 ภายในกำหนดเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

คอนเทนต์แนะนำ
ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตาคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค. นี้
ก้าวไกลย้ำ 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรค “พิธา”แจงเจตนาสร้างสมดุล ปชต.-สถาบัน
เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดนตัดสิทธิฯ 10 ปี หลังยุบพรรค

ไทม์ไลน์คดีแก้  112 ช่างภาพพีพีทีวี
ย้อนไทม์ไลน์ คดีแก้ 112 พิธา-ก้าวไกล

ทีมข่าวพีพีทีวี จึงจะพาย้อนไทม์ไลน์ ที่มาที่ไปของคดีดังกล่าว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล

วันที่ 10 ก.พ.2564

สส.พรรคก้าวไกล เสนอชุดร่างกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน จำนวน 5 ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงต้นปี 2566 พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายหาเสียง โดยในส่วนนโยบายด้านการเมือง มีการเสนอว่าต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่ถูกนำมาใช้ปิดปากหรือทำลายผู้เห็นต่างทางการเมืองทั้ง ม.112, 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

วันที่ 30 พ.ค.2566

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ว่าการกระทำของนายพิธา และพรรคก้าวไกลดังกล่าว เข้าข่ายปฏิปักษ์ต่อการปกครอง เพื่อขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกล

วันที่ 16 มิ.ย.2566

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ ยื่นคำร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยสั่งให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ช่างภาพพีพีทีวี
ธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ผู้ยื่นคำร้องคดี 112 พิธา-ก้าวไกล

วันที่ 26 มิ.ย.2566

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ยื่นคำร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่ามีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการตามที่ร้องของนายธีรยุทธเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2566 หรือไม่

คอนเทนต์สำหรับคุณ

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot
เนื้อหาสนับสนุน By Bluedot

วันที่ 12 ก.ค.2566

ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ดังกล่าว พร้อมให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

วันที่ 12 ส.ค. 2566  

ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลา 30 วัน ในการส่งเอกสารชี้แจงของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ตามคำขอ เนื่องจากระบุเหตุผลว่า เอกสารเยอะ ต้องใช้เวลาในการรวบรวม

วันที่ 26 ก.ย. 2566

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ 15 พ.ย. 2566 – 22 พ.ย. 2566

ศาลรัฐธรรมนูญมการประชุมพิจารณาโดยการอภิปรายในคดีดังกล่าว

ไทม์ไลน์คดีแก้  112 ช่างภาพพีพีทีวี
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ - ชัยธวัช ตุลาธน พยานคดีแก้ 112

วันที่ 25 ธ.ค. 2566

ศาลรัฐธรรมนูญมีการไต่สวนพยานบุคคล ในคดีดังกล่าว โดยมีการไต่สวนพยาน รวม 2 ปาก คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน ก่อนที่ศาลนัดแถลงการณ์ด้วยวาจา ประชุม ปรึกษาหารือ และลงมติ

วันที่ 31 ม.ค. 2567

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ

วันที่ 1 ก.พ. 2567

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุติการกระทำของพรรคก้าวไกล กรณีหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 เข้ายื่นคำร้องต่อ สำนักงาน กกต.ขอให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ขอให้ กกต.พิจารณาส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคก้าวไกลในประเด็นเดียวกัน

ยุบพรรคก้าวไกล ช่างภาพพีพีทีวี
กกต.มีมติยุบพรรคก้าวไกล

วันที่ 12 มี.ค.2567

กกต.มีมติโดยเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประซาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยมอบหมายให้นายทะเบียน พรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน กกต.

 

วันที่ 3 เม.ย.2567

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล จากกรณีมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)

 

17 เม.ย.-15พ.ค.2567

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาตามที่พรรคก้าวไกลขอรวม 3 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน รวมขยายเวลา 45 วัน ตามที่พรรคก้าวไกลขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล กรณีอันควรเชื่อว่า พรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ยุบพรรคก้าวไกล ช่างภาพพีพีทีวี
พิธา แถลง 9 ข้อต่อสู้พรรคก้าวไกล

4 มิ.ย. 2567

พรรคก้าวไกลยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารวมไว้ในสำนวน ส่งสำเนาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาให้ กกต.ในฐานะผู้ร้องทราบ และกำหนดนัดพิจารณาต่อไปในวันที่ 12 มิ.ย. และวันที่ 18 มิ.ย.

 

9 มิ.ย.2567

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเปิด 9 ข้อต่อสู้ในคดียุบพรรคก้าวไกล โดยสาระสำคัญ คือ

1.การวินิจฉัยคดียุบพรรคไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ

2.การยื่นคำร้องในคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3. คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ไม่มีผลไม่มีผลผูกพันในการวินิจฉัยคดีนี้ ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีนี้ใหม่

4. นอกจากการเสนอนโยบายแก้ไข ม.112 แล้ว การกระทำอื่นๆ ตามคำร้องไม่ได้เป็นการกระทำของพรรค

5. การกระทำที่กกต.กล่าวหาไม่เป็นการล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ 

6.ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรยุบพรรคก้าวไกล โทษยุบพรรคต้องให้ได้สัดส่วนกับพฤติการณ์ ของพรรคการเมือง และเป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อจำเป็นฉุกเฉิน ฉันพลัน ไม่มีทางอื่นแก้ไขในระบอบประชาธิปไตย

7. แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งยุบพรรค ก็ไม่มีอำนาจกำหนดระยะเวลาการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค

8. การกำหนดระยะเวลาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ต้องพอสมควรแก่เหตุ ไม่เกิน 5 ปี

9.การเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งต้องเพิกถอนเฉพาะของกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

 

14.มิ.ย.2567

นายปกรณ์ มหรรณพ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน ชี้แจงกรณีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการสั่งยุบพรรคก้าวไกล พร้อมอธิบายเหตุผลไม่ไต่สวนก่อนยื่นยุบพรรคก้าวไกล รวมทั้งย้ำว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ระบุพฤติการณ์ชัดแล้ว และเชื่อว่าศาลมีหลักฐานอยู่แล้ว

 

18 มิ.ย.-17 ก.ค. 2567

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคำร้อง กกต. กรณีขอให้สั่งยุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้ว มีคำสั่งให้ กกต.ผู้ร้อง ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 17 มิ.ย. 2567 และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเสนอศาล และนัดพิจารณาในวันที่ 18 มิ.ย. 2567

แต่ในวันดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาคำร้อง และสั่งรวมสำนวนไต่สวนคดี 112 ในคดียุบพรรคก้าวไกล และสั่งพิจารณาต่อ ในวันที่ 3 ก.ค.2567 จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดคู่กรณีให้รอฟังผลตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 9 ก.ค.2567 ก่อนจะนัดพิจารณาต่อ 17 ก.ค.2567 จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดฟังคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค.

พิธา-ชัยธวัช ช่างภาพพีพีทีวี
พิธา-ชัยธวัช แถลงข่าวปิดคดี

2 ส.ค. 2567

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวปิดคดียุบพรรคก้าวไกลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีนัดวินิจฉัย

 

7 ส.ค. 2567

ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดฟังคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่เปิดไต่สวน เนื่องจากศาลเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน

โดยศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ ในช่วงเวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเอง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี 

คดียุบพรรคก้าวไกล พีพีทีวี
ไทม์ไลน์คดียุบพรรคก้าวไกล

ขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์เรียกเงิน 100 ล้าน?

ออปต้า ทำนายผลแข่ง ทีมชาติไทย พบ อุซเบกิสถาน รอบ 16 ทีม เอเชียน คัพ

“แบม ไพลิน” เปิดใจสละตำแหน่งมิสแกรนด์ระนอง ยอมรับกำลังตั้งท้อง

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ