จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในงานบวชลูกชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี แล้วเกิดการพาดพิงถึง “คนในบ้านป่า” และต่อมายังให้ทนายยื่นขอความเป็นธรรม ว่า คสช. ขู่และบีบบังคับอัยการให้สั่งฟ้องคดี ม.112 ตน
วาทะดังกล่าวเหล่านี้นำมาซึ่งข้อสงสัยว่า เหตุใดนายทักษิณจึงให้ความเห็นเช่นนี้ออกมา เป็นเพราะอารมณ์ความโกรธแค้น หรือเป็นเพราะหวังเลื่อนนัดส่งตัวผู้ต้องหาไม่ส่งฟ้องศาลวันที่ 18 มิ.ย. นี้
คาดพูดด้วยอารมณ์ สร้างศัตรูโดยใช่เหตุ
รศ.พรชัย เทพปัญญา อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ให้ความเห็นในรายการ เข้มข่าวเย็น ช่วง Exclusive Talk ทางช่อง PPTV HD 36 ว่า คนในบ้านป่าที่พูดถึงนั้น น่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ที่ทางฝั่งบิ๊กป้อมไม่ออกมาแสดงท่าที อาจเป็นเพราะกลัวว่าจะเกิดการจุดคุ้ยเรื่องเก่ามาคุย เช่นเรื่องเกาะโต๊ะขอตำแหน่ง
ถ้าถามทำจู่ ๆ นายทักษิณพูดขึ้นมา มองว่าเหมือนคนอารมณ์เสีย เนื่องจากถูกรุมเร้าหลายเรื่อง โดยเฉพาะคดี ม.112 อาจทำให้นายทักษิณกลุ่มใจ “รู้สึกว่าท่านกลับมาสู้ แต่ในความรู้สึก เป็นการต่อสู้แบบปากกล้าขาสั่นรึเปล่า เพราะคดีนี้คนธรรมดาไม่มีใครอยากพบเจอ ใครโดนคดีนี้น้อยคนจะรอด ใครโดนก็เหมือนขาข้างหนึ่งเข้าตารางแล้ว”
รศ.พรชัยยังมองว่า การพูดถึง คสช. เป็นความผิดพลาด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อนายทักษิณหนุนนายกฯ เศรษฐา พล.อ.ประยุทธ์ก็หนุนด้วย จึงไม่น่าพาดพิงกัน
“ถามว่าทำไมรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์หนุนนายกฯ เศรษฐา ผมดูจากข่าวนะ สว.สายไหนที่ลงเสียงให้นายกฯ เศรษฐาล่ะ สุดท้ายจากข่าวก็สาย พล.อ.ประยุทธ์ที่หนุน เป็นดีลจากนายทักษิณที่ทำให้นายเศรษาได้เป็นนายกฯ” อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์กล่าว
เขาเสริมว่า สิ่งที่นายทกษิณพูดเป็นเรื่องไม่ควรทำ เป็นการสร้างศัตรูโดยใช่เหตุ เพราะเป็นผู้มีพระคุณ แม้ไม่ใช่โดยตรงแต่ก็มีพระคุณต่อเพื่อไทย แม้กระทั่งการได้กลับมาประเทศไทย บางส่วนของ คสช. อาจมีส่วนช่วยดีลให้ได้กลับบ้าน การพูดว่า คสช. เกี่ยวกับการที่ทำให้โดน ม.112 จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าพูด
“ผมว่าพูดเพราะแค้น โมโห ไม่เป็นมิตรกันแล้ว หักกันแล้ว” รศ.พรชัยบอก
คสช.อยู่เบื้องหลังถูกฟ้อง ม.112 มีมูล แต่หวังผลทางคดีไม่ได้
ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ ฝ่ายการเมือง บอกว่า จุดน่าสนใจคือ บ้านเมืองขัดแย้งมาตลอด 20 ปี เกิดจากความเห็นต่างทางการเมือง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 จนมาถึงรัฐประหาร แต่ความขัดแย้งยังอยู่ และความเห็นต่างทางการเมืองทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม
“นายทักษิณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม อันเกิดจากกระบวนการความเห็นต่างการมือง มีแรงจูงใจทาเมือง เอาคนเป็นปฏิปักษ์มาตรวจสอบ ทั้งที่มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่แล้ว ยังตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (ชื่อย่อ คตส.)ขึ้นมา” ดร.พร้อมพงศ์กล่าว
ที่ปรึกษารองนายกฯ ย้ำว่า “เหมือนผลไม้พิษมาจากต้นไม้ที่เป็นพิษ สังคมเข้าใจคำนี้”
ด้าน รศ.พรชัยกล่าวว่า เรื่องคดี ม.112 ของนายทักษิณนั้น หากมองในความรู้สึกคนนอก ก็อาจแปลก ๆ เพราะนายทักษิณพูดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 แต่มายื่นฟ้องช่วงปี พ.ศ.2558 หรือ 1 ปีหลังการรัฐประหาร และยื่นเรื่องโดยอดีต ผบ.ทบ. “ทำไมถึงมายื่นช่วงปี พ.ศ.2558 ทั้งที่ผ่านมาตั้ง 6 ปี ควรยื่นนานแล้ว ปีนั้นมีถอดยศด้วย ยึดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย เหมือนถูกแกล้งถ้ามองจากสายตาคนทั่วไป”
รศ.พรชัยเสริมว่า การพูดแบบนี้ไม่เป็นผดีต่อนายทักษิณมากกว่านายเศรษฐา เพราะคดี ม.112 อาจมีปาฏิหาริย์ได้ ไม่ว่าชั้นศาลหรืออัยการ ถ้าเป็นมิตรกันไว้อาจเป็นผลดีมากกว่า
ส่วนที่ว่าการพูดครั้งนี้จะผลต่อการเข้าพบอัยการในอีก 7 วันข้างหน้าหรือไม่นั้น รศ.พรชัยฟันธงว่า “อัยการจะไม่เลื่อน เพราะเนื้อหาการขอความเป็นธรรมไม่เกี่ยวกับรูปคดี เกี่ยวกับเรื่องความรู้สึก ว่าถูกใส่ร้าย ไม่เกี่ยวกับคดี ม.112 เป็นการเอาปัจจัยนอกมาเป็นเครื่องประกอบขอบรรเทา”
ด้าน รศ.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เห็นด้วยว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “ข้อต่อสู้ที่นายทักษิณใช้อยู่เป็นสิทธิผู้ต้องหา ผู้ถูกฟ้องต้องทำทุกวิถีทางอยู่แล้ว ย้ำว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน นายทักษิณจะไปพบอัยการตามประกาศแน่นอน วันนี้นายทักษิณชัดเจนแล้วว่าไม่กลัวใครทั้งนั้น ดังนั้นไม่ได้คาดหวังเรื่องคดีหรอก”
ขณะที่ ดร.พร้อมพงศ์เชื่อว่า การพูดนี้ไม่ได้ทำเพื่อประวิงเวลา จะมีการต่อสู้ปกติที่ศาลในวันที่ 18 มิ.ย. เพราะไม่มีความจำเป็นต้องหนี กระแสที่ว่านายทักษิณหนีไปแล้วเป็นการสร้างประเด็นมาโจมตีพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเท่านั้น คนมีสติจะไม่เชื่อ
“ดีลลับ” มีอยู่จริง? ถ้ามี ทำไมยังโดนคดี
รศ.ธนพรบอกว่า ในกรณีที่นายทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิดคดี ม.112 และไม่ได้ประกันตัว ส่วนตัวเชื่อว่า ความวิตกจะไม่ได้ประกันตัว ชั่วโมงนี้ไม่มีในใจอดีตนายกฯ เลย “ครั้งที่แล้วกลับมาอยู่นอนเรือนจำกี่ชั่วโมงเอง ครั้งนี้ยังเลือกได้ด้วยว่าจะนอนชั้น 14 หรือนอนบ้าน กรมราชทัณฑ์ประกาศคุมตัวที่บ้านก็ได้”
ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบายยังเสริมอีกว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจัดแถวหมดแล้ว คนไหนไม่สะดวกที่จะอำนวยความสะดวกให้ก็โดนย้ายหมดแล้ว สามารถไปดูได้
ส่วนเรื่องดีลลับ รศ.ธนพรยืนว่า มีจริง “แต่ไม่ใช่สัญญาจ้าง ไม่ใช่สัญญากู้เงิน ไม่มีรายละเอียดว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่านี้ มีเพียงกรอบใหญ่ก่อนเดินทางกลับไทย ยังเป็นทิศทางนั้นอยู่ ขั้วอำนาจเดิมฝืนใจใช้นายทักษิณ เพราะยังไม่รู้จะจัดการก้าวไกลยังไง”
ดร.พร้อมพงศ์แย้งในเรื่องนี้ว่า นายทักษิณยอมติดคุก คนพูดไปเรื่อยว่าติดไม่จริง อดีตนายกฯ ก็ไม่มีอิสรภาพเหมือนกัน ส่วนเรื่องดีลมองว่าไม่มีแน่
“ถ้ามีดีลจริงจะโดนคดีหรอ ถ้าดีลคดีต้องจบแล้ว เหมือนกรณี 40 สว. ฟ้องนายกฯ เศรษฐา ถ้ามีจริงจะโดนหรือ อันนี้คนพูดกันไป นักวิชาการบ้าง มโนกันไป ดีลลับไม่มีหรอก คิดง่าย ๆ แบบประชาชนเลย ถ้ามีดีลจะโดนคดีทำไม” ดร.พร้อมพงศ์กล่าว
ส่วน รศ.พรชัยบอกว่า หลังฟัง ดร.พร้อมพงศ์ เริ่มคล้อยตามว่า ถ้ามีดีลจริง นายทักษิณน่าจะสงบเสงี่ยมกว่านี้ ไม่น่าจะกล้าพาดพิง คสช. แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนนายทักษิณไม่กลัว เพราะถ้ามีดีลจะต้องเกรงใจเกรงกลัวคนที่ดีลด้วย
ยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นการเมืองร้อนแรงที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า คดี ม.112 ของนายทักษิณ ที่สุดแล้วจะไปจบลงที่ตรงไหน และการพาดพิงถึงคนในบ้านป่าและ คสช. จะส่งผลสืบเนื่องอะไรต่อไปหรือไม่
ไฟไหม้วอด! ร้านค้า 118 ห้อง ศูนย์รวมสัตว์เลี้ยงตลาดจตุจักร สัตว์ตายเกลื่อน!
WWDC 2024 เปิดตัว "iOS 18" พร้อม Siri โฉมใหม่พลัง AI
บุกจับญาติ “ชาดา” คาโรงแรมกลางกรุง มั่วสุมเสพยา ยึดอาวุธปืน-กระสุน