จากกรณีพรรคประชาชนจะแถลงข่าวเปิดตัวพรรคและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ไปแล้ว แต่กลับกันยังมีการยื่นให้ตรวจสอบในหลายประเด็น
ล่าสุดตัวแทนจากพรรคไทยภักดีและพรรคทางเลือกใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังกลับไปปี 2560 ว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลหรือพรรคประชาชน มีจำนวนสาขาในแต่ละปีเท่าไหร่ การตั้งชื่อพรรค รวมถึงให้ตรวจสอบการเปิดรับเงินบริจาคของพรรคในช่วงที่ผ่านมา
โดยนายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี เป็นผู้แทน นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรค ยื่นหนังสือถึง กกต.ให้ตรวจสอบข้อมูลและสถานภาพของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลหรือพรรคประชาชนในสองประเด็น
“โซดาไฟ” รู้จักพิษผิวไหม้-เสี่ยงตาบอดและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
“วันสารทจีน” ควรไหว้อะไรบ้าง กับข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ
เตรียมเก็บภาษี แอปฯ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน หลังกระทบรายย่อยไทย
ประเด็นแรก จากฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปัจจุบัน พบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคทั้งหมด 3 สาขา อยู่ในภาคเหนือ 2 สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาพรรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ซึ่งอาจจะเข้าเงื่อนไขการสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา 91 (3) พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งได้บัญญัติว่าพรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง หลังดำเนินการครบตามมาตรา 33 (2) มีจำนวนสาขาพรรคการเมืองเหลือไม่ถึงภาคละหนึ่งสาขาเป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปี จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต. ตรวจสอบฐานข้อมูลย้อนหลังกลับไปปี 2560 ว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลหรือพรรคประชาชน มีจำนวนสาขาในแต่ละปีเท่าไหร่ และเข้าเงื่อนไขการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองหรือไม่
และอีกหนึ่งประเด็น นายทศพลระบุว่า วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา พักถิ่นกาขาวชาววิไลหรือพรรคประชาชนได้จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ รวมถึงเปลี่ยนชื่อและตราสัญลักษณ์ของพรรค และในวันดังกล่าวยังได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารทันที ซึ่งการเปิดบัญชีธนาคารของพรรคการเมืองเพื่อการบริจาคจะต้องเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งข้อ 42 ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2563 ซึ่งกำหนดให้หัวหน้าพรรคและเหรัญญิกของพรรคเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคาร โดยจะต้องมีหนังสือรับรองรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคจาก กกต.มาแสดงเป็นหลักฐานประกอบการเปิด
จึงอยากสอบถามว่า กกต. ได้ให้การรับรองชื่อพรรค ตราสัญลักษณ์ และรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วหรือไม่ หาก กกต.ยังไม่ได้ให้การรับรอง ขอให้ตรวจสอบการรับบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารของพรรคว่าผิดระเบียบ กกต.หรืออาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้หลงเข้าใจผิดหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ ได้ยื่นหนังสือถึง กกต.ในประเด็นเดียวกันกับพรรคไทยภักดี ให้ตรวจสอบพรรคประชาชน โดยระบุว่าตนในฐานะนักการเมืองที่มีประสบการณ์มาถึง 7 ปี มองว่าการที่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรรคประชาชน ตนเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล จึงอยากให้ตรวจสอบว่าพรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องการตั้งชื่อหรือไม่ และถ้ายื่นแล้ว กกต.อนุญาตแล้วหรือไม่
และอีกหนึ่งประเด็นคือการที่พรรคประชาชนเปิดรับบริจาคเงินจากประชาชนที่สนับสนุนพรรค เมื่อบริจาคแล้วเงินเข้าบัญชีใคร เข้าบัญชีพักถิ่นกาขาวชาววิไล แต่ประชาสัมพันธ์ว่าคือพรรคประชาชน ตรงนี้จะเข้าข่ายผิดเงื่อนไขหรือหลอกลวงประชาชนหรือไม่ ซึ่ง กกต.ต้องเร่งตรวจสอบ