จากกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (อ่านรายละเอียดที่นี่)
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว จะทำให้มีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำทั่วประเทศ ประมาณ 50,000 ราย ตามมาตรา 5 นอกจากนี้ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับสิทธิ เข้าหลักเกณฑ์ลดวันต้องโทษ อีกกว่า 200,000 ราย ซึ่งมีรายงานว่า กรมราชทัณฑ์ได้เตรียมประชุมเตรียมความพร้อมรองรับผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำ
นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว จะส่งผลให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นโทษเป็นอิสระทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดโทษในวันที่ 31 ส.ค.2567 เนื่องจากนายทักษิณนั้น ถือเป็น "ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ" ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 6 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฉบับดังกล่าว ซึ่งระบุว่า ผู้ต้องโทษดังต่อไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป (1) ผู้ต้องกักขัง (2) ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ (3) ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ
โดยตามมาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฉบับดังกล่าว ระบุว่า "ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ" หมายความว่า นักโทษเด็ดขาดซึ่งเป็นผู้ได้รับการพักการลงโทษตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์หรือกฎหมายว่าด้วยเรือนจำทหาร หรือได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์ ซึ่งมิได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขแห่งการพักการลงโทษ หรือการลดวันต้องโทษจำคุกก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
ดังนั้นหลังจากนี้ นายทักษิณซึ่งเป็นหนึ่งใน"ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติที่ได้พระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว สามารถเดินทางไปรับใบบริสุทธิ์จากเรือนจำได้