วันที่ 22 ส.ค. 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรกัฐมนตรี กล่าวในช่วงหนึ่งระหว่างการถามตอบ ในการแสดงวิสัยทัศน์ vision for thailand ถึงกรณีที่มีรัฐบาลสภาวะปัจจุบัน ที่เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว แล้ววันนี้เปลี่ยนจากนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ส่งผลให้ป่าสะเทือนเลื่อนลั่น จะทำให้รัฐบาลเดินไปอย่างมีเสถียรภาพอย่างไร
นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องเสถียรภาพไม่มีปัญหาเลย แต่เรื่องข้ามขั้วไม่ข้ามขั้ว บ้านเราชอบบัญญัติศัพท์
และพูดติดปากกันเลย บ้านเราเป็นระบบรัฐสภาใครรวมเสียงได้ก่อนก็จะตั้งรัฐบาล แต่ตามมารยาทให้สิทธิคนที่ได้ที่หนึ่งก่อน แต่ถ้าคนที่หนึ่งเขาไม่ได้ก็เป็นอันดับสอง เป็นคนรวบรวมเสียง จึงไม่ใช่การข้ามขั้วแต่เป็นระบบรัฐสภา และที่ตั้งไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมยกเลิก การแตะต้องมาตรา 112 เรื่องเดียวเลย เพราะทุกพรรคเขาไม่เอาด้วยกับเรื่องนี้ ถ้าวันนั้นไม่มีมาตรา 112 วันนั้นการตั้งรัฐบาลของอดีตพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจบไปแล้ว
เมื่อถามถึงความมั่นใจว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีความมั่นคงใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะ สส.ในฝั่งรัฐบาลมี 300 กว่าเสียง ไม่มีอะไรที่เสี่ยง และการที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ และทีมงานที่รองรับด้านหลังน่าจะผลักดันได้ดี
เช็กพื้นที่ 35 จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก 9 ลำน้ำเสี่ยงล้นตลิ่ง!
5 แหล่งอาหารช่วยบำรุงความจำ ชะลอความเสื่อมของสมอง
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน รองรับ "ดิจิทัลวอลเล็ต"
เมื่อถามถึง คำแนะนำต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งชนะพรรคประชาชนได้ นายทักษิณ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสูงพรรคเพื่อไทยจะเป็นที่ 1 การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หากหัวหน้าพรรคไม่ลาคลอดแล้วเดินหน้าหาเสียงไปเรื่อยๆ ตอนนั้นลาคลอดไป 10 กว่าวัน ทำให้คะแนนนิยมตก หากหาเสียงจนจบ ตนว่าไม่แพ้มั่นใจ เพราะเราสำรวจตลอด
เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาชน นายทักษิณ กล่าวว่า ของมันเคยชนะมาแล้ว ซึ่งหลักของพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชนเขาต้องการความเท่าเทียม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในบริบทของสังคมไทย ดังนั้น เขาจึงจะอยู่ในบริบทของการเมือง ส่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่ในบริบทของการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมของประชาชน เราเน้นโอกาส เขาเน้นสถานะ ไม่เหมือนกัน ซึ่งตนใช้แบบนี้มาตั้งแต่ปี 2541 ตนชนะด้วยคำเดียวคือโอกาส วันนี้ไม่ใช่คนไทยงอมืองอเท้าหรือไม่ฉลาด แต่เป็นเรื่องของโอกาส
เมื่อถามว่า หากไม่มีเรื่อง 112 การเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนสามารถจับมือกันตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ในฐานะผู้เคยก่อตั้งพรรค เรามีพันธมิตรที่เคยทำงานในรัฐรัฐบาลร่วมกัน เขาต้องมีสิทธิ์ก่อน นี่คือมิตรทางการเมือง หลักการทางการเมืองเป็นเช่นนี้
เมื่อถามว่า คนที่อยู่ด้วยกันมีประชาธิปัตย์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ก็มาร่วม งานนี้ด้วย ตอนมองว่าวันนี้ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน เราแบ่งหน้าที่ แต่เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน
เมื่อถามว่า ในฐานะพ่อคิดว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือ ลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรี คนแรกที่อายุน้อยที่สุด อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่ ช่วยคิดช่วยเสนอแต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ตนไปพบว่าสิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือแนวทางประเทศควรไปทางไหนก็จะบอกเขา แต่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องของตน แต่ตนคงจะอยู่เฉยมองปัญหาบ้านเมืองแบบไม่สนใจไม่ได้ ห่างจากตั้งตำแหน่งให้ตัวเองก็จะเป็น สทร. ได้หรือไม่ เห็นอะไรไม่ดีก็ต้องบอก เพื่อให้เขาได้แก้ไข เราก็ห่วงใย รักบ้านเมืองอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ต้องบอกในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนจะวางระยะห่างกรณีที่มีนักการเมืองหรือนักธุรกิจเข้าหาอย่างไรนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมีนิสัยเป็นอาจารย์เก่า ชอบสอนหนังสือชอบให้ความรู้ ใครมาปรึกษาก็ยินดี แต่ถ้ามาวิ่งเต้นไม่เกี่ยวกับตน ไม่ต้องมา บ้านตนเจอแต่เพื่อนฝูง
มองว่าหลังจากนี้มีโอกาสจะเกิดรัฐประหารขึ้นอีกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี วงจรนั้นหายไปแล้ว เชื่อว่านายกฯ แพทองธารจะปลอดภัยจากรัฐประหาร 100 เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามถึง การถูกกล่าวหาในคดีเรื่อง 112 นายทักษิณว่า นักข่าวเกาหลี มาสัมภาษณ์ไม่รู้ว่าจะอัดวิดีโอ ก็คุยกันไป ยืนยันว่าตนไม่เคยแตะเรื่องเจ้านาย เพราะคำว่า เซอร์เคิ้ล (วงรอบ) จนคิดว่าตำรวจตกภาษาอังกฤษ แต่คำว่าเซ็นเตอร์คือตรงใจกลาง ตนไม่ได้พูดถึงเซ็นเตอร์แต่พูดถึงเซอร์เคิล ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงของการกระชับอำนาจปฏิวัติพอดี ตนได้ข่าวมาว่าคนที่ทำคดีแทบเป็นบ้า เพราะถูกกดดัน และตนก็รู้ว่าใครกดดัน และคนกดดันก็ยังอยู่ เดี๋ยวตนจะไปซักในศาล รวมทั้งมั่นใจว่าเรื่องนี้จะจัดการได้สบายมาก “แหม … แปลภาษาอังกฤษยังผิดเลย” ไปขออาจารย์ที่ขึ้นเวที กปปส. ไปยืนยันคำว่าเซอร์เคิลแปลว่าอะไร นายทักษิณ ถึงกับร้องโอ้ย ตนไม่รู้ว่าเขาเป็นอาจารย์สอนหนังสือได้อย่างไร