ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างต่อเนื่องสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีการจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์แทนนั้น โดยทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่า “เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ ประเทศต้องเดินหน้า ความขัดแย้งในอดีตก็ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลัง”
แต่งานนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลับมองว่าเมื่อยิ่งสะท้อนว่าประชาชนถูกหลอกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนที่หิวอำนาจเท่านั้น
โดยนายจตุพร บอกว่า เรื่องนี้ต้องโทษพรรคเพื่อไทยคนเดียว ไม่ต้องไปโทษพรรคอื่นเลย โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่างๆก็อยากจะให้ไปเอ็กซเรย์ร่างกายหน่อยว่ายังมีหัวใจอยู่หรือไม่ พร้อมยังเหน็บด้วยว่าหลายคนที่ล้มตายไปจากการต่อสู้ นายทักษิณไม่เคยไปร่วมงานศพ ไม่เคยสัมผัสกับคนที่สูญเสียเหล่านี้ เพราะฉะนั้นก็คงไม่รู้สึกอะไร
ปภ.รายงานน้ำท่วม 5 จว. ภาคเหนือ-ภาคกลางตอนบนยังอ่วม!
“เงินสงเคราะห์บุตร 2567” เช็กเลยแต่ละเดือนโอนเข้าบัญชีวันไหนบ้าง
นักวิทย์ถ่ายภาพความละเอียดสูงพื้นผิว “ดาวเหนือ” ได้เป็นครั้งแรก
ส่วนที่บอกว่าที่ต้องจับมือกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้านั้น นายจตุพร ตั้งคำถามว่า ประเทศชาติเดินหน้าหรือคนพวกนี้เดินหน้ากันแน่ ประชาชนถูกหลอกให้เสียเลือดเสียเนื้อ ฝากอนาคตไว้กับคนที่หิวอำนาจ พอชนะเลือกตั้งคนพวกนี้ได้เป็นรัฐบาล ได้เป็นรัฐมนตรี มีแต่ประชาชนที่ยังเป็นประชาชนเหมือนเดิม ไม่ได้อะไรเลย
เมื่อถามว่าคนสองกลุ่มที่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกันมาก่อนมาจับมือกันท้ายที่สุดจะไปกันรอดหรือไม่ นายจตุพรมองว่า นักการเมืองมองกันอย่างเดียวคือเรื่องของผลประโยชน์ ตราบใดที่ผลประโยชน์ไปด้วยกันได้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ไม่สนใจว่านี่คือการทรยศคนเป็น หักหลังคนตายอย่างไรบ้าง
ส่วนการที่เพื่อไทยเลือกมาจับมือประชาธิปัตย์และผลัก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐออกไป นายจตุพรบอกว่า ในบรรดา 3 ป. ลุงป้อมเป็นคนที่เอื้อเฟื้อกับกลุ่มอำนาจเดิมที่สุด และเป็นคนใจอ่อน แต่ตอนนี้ก็คงจะไปสะกิดให้ลุงป้อมโกรธได้จริงๆแล้ว
“แม้รูปเกมดูเหมือนลุงป้อมจะแพ้ แต่ถ้ามองดูดีๆ รอบตัวลุงป้อมหามือสร้างสรรค์ไม่ค่อยได้ แต่มือทำลายล้างมีเพียบ ฉะนั้นจากนี้ทางเพื่อไทยรวมถึงคนชินวัตรคงเจอศึกหนัก”
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาแถลงถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล หันหลังให้นายทักษิณ เพราะน้อยใจที่นายทักษิณรับปากมาเป็นร้อยครั้งแต่ก็ทำเหมือนตัวเองเป็นพรรคเสียงเดียวที่มาใหม่ พร้อมกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ยืนยันว่า ตัวเองไปพบนายทักษิณที่ชั้น 14 จริงๆถึง 2 ครั้งนั้น นายจุตพร มองว่า นายจตุพร มองว่าไม่แปลกใจที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะหันหลังให้กับนายทักษิณ พร้อมยังเรียกร้องให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกมาเปิดเผยความจริงให้หมดอย่ากั๊กเอาไว้ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากที่นายกฯอิ๊งค์ ถวายสัตย์ปฎิญานตน จะเจอเรื่องร้องเรียนอีกมาก และประเมินชะตากรรมของนายทักษิณและนายกฯอิ๊งค์ว่าน่าจะจบเร็วภายใน 6 เดือน ส่วนพรรคประชาชนที่กำลังมองรอดูเสือกัดกันนั้น นายจตุพรมองว่าทางพรรคประชาชนต้องไม่นั่งรอดูอยู่เฉยๆแบบนี้ แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าพร้อมเสี่ยง พร้อมเข้าแลกเพื่ออยู่ข้างกับประชาชนจริงๆด้วยเหมือนกัน