นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งหนังสือ ขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 หรือไม่
และเป็นเหตุให้ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92 (3) เพราะกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 28 หรือไม่
ซึ่งภายในมีการระบุ 8 ข้อ มีเนื้อหา อ้างถึง ข่าวเกี่ยวกับการที่นายทะเบียนตั้งกรรมการสอบกรณีการร้องยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งพ่วงพรรคร่วมรัฐบาลเดิม 6 พรรคนั้น น่าจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นคำร้องกล่าวหาคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 รวมอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. ไม่ควรทำการตรวจสอบต่อไป เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งที่ 52/2566 ไว้เป็นแนวทางแล้ว
และระบุว่ากรณีการกล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ซึ่งมิใช่สมาชิก กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะเป็นผู้แทนของพรรคเพื่อไทยในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ ตามความในมาตรา 21 วรรค4
และระบุว่า กรณีที่นายทะเบียนได้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานนั้น ย่อมเป็นไปตามความในมาตรา 93 ซึ่งจากข่าวที่ กกต. เผยแพร่ไว้แล้ว 23 ข่าว จึงขอส่งสำเนาข่าวอื่น ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาว่า พรรคเพื่อไทยยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ควบคุม ครอบงำ ฯหรือไม่
สำหรับพรรคการเมืองอื่น 6 พรรค ขอให้ กกต. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป