กลายเป็นปัญหาบานปลายหลังกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ที่เป็น 1 ใน 6 โรงงานที่ ฝ่าฝืนรับซื้ออ้อยเผาเข้าหีบมากเกินกำหนด 25% แต่ปรากฎว่าเหตุผลการสั่งปิดเป็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมบอกว่า โรงงานน้ำตาลดังกล่าวเสี่ยงระเบิด
ทั้งนี้ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกคำสั่งให้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศหยุดรับอ้อย 7 วันในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดฝุ่นควัน PM 2.5 เป็นของขวัญปีใหมให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 2568
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ(สอน.) ได้รับ รายงาน ว่าช่วงวันที่ 29 – 30 ธ.ค. 2567 มีการลักลอบเผาอ้อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ซึ่งสอดคล้องกับความหนาแน่นของฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มกลับขึ้นมาสูงอีกครั้ง สันนิษฐานว่า การลักลอบเผาอ้อยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เพื่อเตรียมการส่งอ้อยเข้าหีบในวันที่ 3 ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันที่โรงงานน้ำตาลเริ่มกลับมาผลิตน้ำตาลทราย
วันที่ 3 ม.ค. 2568 สอน.จึง ทำหนังสือ ขอความร่วมมือไปยังโรงงานน้ำตาลทั้ง 58 แห่ง ให้รับเฉพาะอ้อยสดเข้าหีบ โดยชะลอ ระงับ ยับยั้ง และยุติการเผาไร่อ้อย พร้อมทั้งยุติการรับอ้อยเผาไฟเข้าหีบ ระหว่างวันที่ 3 ม.ค. 2568 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 12 ม.ค. 2568 เวลา 23.59 น. เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กสำหรับเยาวชนไทยทั้งประเทศ โดยการคืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ
จากนั้นวันที่ 6 ม.ค.2568 มีข่าวออกมาว่า จากนโยบายของ รมว.อุตสาหกรรม ได้รับความร่วมมือจากโรงงานน้ำตาลเกือบทุกแห่ง จากทั้งหมด 58 แห่ง แต่มี 6 แห่ง ที่ไม่ให้ความร่วมมือ ยังรับซื้ออ้อยเผาสูง ได้แก่
1.โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี รับซื้ออ้อยถูกเผา 58.8%
2.โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี รับซื้ออ้อยถูกเผา 41.68%
3.โรงงานมิตรกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ รับซื้ออ้อยถูกเผา 35.66%
4.โรงงานน้ำตาลเอราวัณ จ.หนองบัวลำภู รับซื้ออ้อยถูกเผา 27.05%
5.โรงงานไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ.สกลนคร รับซื้ออ้อยถูกเผา 26.99%
6.โรงงานรวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น รับซื้ออ้อยถูกเผา 20.06%
จากนั้นวันที่ 15 ม.ค. 2568 รมว.อุตสาหกรรม สั่งปิดโรงงาน โรงงานน้ำตาลของบริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด และโรงไฟฟ้าของบริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน หลังทีมตรวจการสุดซอย พบว่า บริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด มีการรับอ้อยเผาเข้าหีบสะสมสูงสุดจากโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 58 โรงงาน คิดเป็น 43.11% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด หรือกว่า 4.1 แสนตัน เทียบเท่าการเผาป่ากว่า 4.1 หมื่นไร่ โดยจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนการรับอ้อยเผาเข้าหีบสูงสุดของประเทศ
และยังพบว่า โรงไฟฟ้าในโรงน้ำตาลไทยอุดรธานี ไม่ปลอดภัยเสี่ยงระเบิด จึงได้ใช้กฎหมายโรงงาน สั่งปิด จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ขณะที่ อีก 5 โรงงานที่พบว่าไม่ให้ความร่วมมือในการงดซื้ออ้อนเผา จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการสั่งปิดแต่อย่างใด
ส่วนภาพรวมเฉลี่ยโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศรับซื้ออ้อยถูกเผากว่า 4 ล้านตัน คิดเป็น 21.80% ของปริมาณอ้อยที่รับเข้าหีบทั้งหมดกว่า 18 ล้านตัน เทียบเท่าเผาป่ากว่า 4 แสนไร่ และสร้างมลพิษปล่อย PM 2.5 จากการเผาไร่อ้อยสูงถึง 1,000 ตัน