จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 มีการพิจารณาประเด็นการตัดไฟในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดการดำเนินการของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีมติให้ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป
แต่หากย้อนไปก่อนหน้านั้น จะเห็นได้ว่าท่าทีและการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวกลับเป็นไปคนละทิศคนละทางจนทำให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ทีมข่าว PPTVHD36 จะพาย้อนไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างก่อนจะมีการตัดไฟในพื้นที่ 5 จุดบริเวณชายแดนไทยเมียนมาในวันนี้
4 เม.ย.2567
จุดตั้งต้นแรกเกิดขึ้นหลังจาก นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการแฉข้อมูลว่า บ่อนกาสิโน และธุรกิจผิดกฎหมายหลายแห่งพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมา ใช้ไฟฟ้า น้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟ รวมทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของไทยไปหลอกลวงคนทั่วโลก
14 พ.ค. 2567
รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ได้มติครม.เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 เรื่อง การแก้ปัญหาอาชญากรรมที่ตั้งบริเวณชายแดน โดยกำชับหลายหน่วยงานปราบปรามพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน ที่ใช้ทรัพยากรของไทย ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และการสื่อสารในการกระทำความผิด และสั่งดำเนินการระงับการให้บริการสาธารณูปโภคข้ามพรมแดนทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และสัญญาณเครือข่าวสื่อสาร แต่หลังจากนั้นเรื่องการจ่ายไฟให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เงียบหายไป
จากนั้นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากเกิดกรณี “ซิงซิง” ดาราชาวจีนโดนหลอกให้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา
4 ม.ค.2568
นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ออกมาให้สัมภาษณ์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ กฟภ.ยุติการจ่ายไฟไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะกลายเป็นว่าไปจ่ายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมชี้เป้าว่าถ้ารัฐบาลอยากแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมีมาตรการทำหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการ ตัดน้ำตัดไฟ ตัดแล้วต้องป้องกันไม่ให้มีการใช้น้ำมันปั่นไฟ ซีลชายแดนให้เข้มแข็ง
10 ม.ค.2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ได้ออกมาตอบโต้ว่า การจ่ายไฟของ กฟภ. เป็นการทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ ไม่ได้ส่งไฟโดยตรงไปให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย โดยมีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน แล้วพบว่าเขาทำในเรื่องที่ผิดกฎหมายกระทบต่อความมั่นคงของเรา เราจะตัดไฟทันที
16 ม.ค.2568
นายรังสิมันต์ โรม อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ชายแดนรอบประเทศไทย โดยตอนหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่า ประเด็นที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์รอบประเทศไทยเติบโต เพราะมีการขายไฟฟ้าจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ที่ จ.ตาก พบว่า มีนอมินี คือ บริษัทของชนกลุ่มน้อยเข้ามาซื้อไฟจากไทย โดยพื้นที่ดังกล่าวถูกปล่อยให้ทุนเทามาเช่าพื้นที่ ซึ่งการซื้อไฟส่วนใหญ่จะเข้าไปสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์
21 ม.ค.2568
หลังจากนั้นก็กลายเป็นการตอกย้ำประเด็นดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์ The Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นสื่อทางการเมียนมา ฉบับวันที่ 21 ม.ค.2568 ได้เขียนระบุถึงการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์บริเวณชายแดน โดยหลายช่วงโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน ที่น่าจะหมายถึงประเทศไทย โดยระบุว่า “การหลอกลวงออนไลน์และการพนันออนไลน์จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต อาวุธและเครื่องกระสุน ไปจนถึงอาคารที่ทำการ ซึ่งต้องผ่านการเข้าถึงจากประเทศอื่น”
23 ม.ค.2568
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้เชิญกระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าแม่สาย ซึ่งเกี่ยวโยงกับเครือข่ายยาเสพติดและบริษัทนอมินีที่ซื้อขายไฟฟ้ากับไทย เพื่อหารือเรื่องการดำเนินการตัดไฟกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่ตัวแทน สมช.ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า มีการประชุมหารือกับ กฟภ. รวมถึงการตรวจสอบล่าสุด ยังไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะยืนยันว่า บริษัทที่นำกระแสไฟฟ้า จาก กฟภ.ไปใช้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
30 ม.ค.2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ประเด็นการตัดไฟว่า หากหน่วยงานความมั่นคงชี้ว่าการส่งไฟฟ้าเป็นภัยต่อความมั่นคง ก็พร้อมตัดไฟทันที โดยย้ำว่าการจำหน่ายไฟฟ้าดำเนินการตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคง
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีแ ละรมว.กลาโหม ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่นายอนุทินบอกว่าหน่วยงานความมั่นคงต้องสั่งกัดไฟนั้น ว่า กระทรวงมหาดไทยก็ถือเป็นหนึ่งหน่วยงานของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งต้องมีการหารือกัน เพราะอย่างที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ก็ได้มีการบูรณาการการทำงานทั้งหมด
31 ม.ค.2568
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีแ ละรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่องการตัดไฟว่า ไม่ใช่เป็นการโยนกันไปมา การตัดไฟฟ้ามีมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยในปี 2567 ได้ตัดไปแล้วบางส่วน อย่างอำเภอแม่ระมาด และอำเภอแม่สอด ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองชเวโก๊กโก ประเทศเมียนมา ส่วนที่ยังไม่ตัดไฟคือ การจ่ายไฟไปยังเมืองเมียวดี เนื่องจากมีนักเรียน และโรงพยาบาลที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นเจ้าภาพแก้อาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งประเด็นการพิจารณาตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์
และในวันเดียวกันนั้น หลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง เลขาธิการ สมช. ขอให้ส่งข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนพิจารณาตัดไฟแนวชายแดน 5 จุด
3 ก.พ.2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ย้ำตามแนวทางเดิมว่า พร้อมสั่งหยุดจ่ายไฟเมียนมาทันที หากฝ่ายมั่นคงมีหลักฐานยืนยันว่าคู่สัญญาซื้อขายไฟในประเทศเมียนมาผิดจริง
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงแนวทางการพิจารณาตัดไฟชายแดนว่า อาจต้องใช้มาตรการตัดไฟครึ่งหนึ่ง เพื่อให้กระแสไฟตก โดยเฉพาะ อ.แม่ละมาด กับ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่เกี่ยวข้องกับเมืองชเวก๊กโก่ ควบคู่ไปกับมาตรการเจรจากับประเทศเมียนมา
4 ก.พ.2568
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าในที่ประชุมได้สั่งการให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมด่วน สมช. เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ พร้อมทั้งยืนยันว่าการตัดไฟสามารถทำได้ทันที
จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 ประเด็นการตัดไฟในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีมติให้ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป ในพื้นที่ 5 จุดที่ไทยขายไฟให้เมียนมา
5 ก.พ.2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กดปุ่มหยุดจ่ายไฟ 5 พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ประกอบด้วย
จุดที่ 1 จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย แดนฝั่งประเทศไทย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา
จุดที่ 2 บริเวณบ้านเมืองแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน
จุดที่ 3 บริเวณบ้านห้วยม่วง อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง
จุดที่ 4 บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง
จุดที่ 5 บริเวณพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ถึงเมืองพญาตองซู รัฐมอญ