น.ส แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในการหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ถึงเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ดีมาก ทางจีนก็สนับสนุน ในส่วนของประธานาธิบดีก็ชื่นชมในเรื่องนี้ เห็นว่าสิ่งประเทศไทยทำ เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
เมื่อถามว่าทางการจีนจะสนับสนุนในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งในส่วนของทางการจีนก็จะมีความเข้มข้นในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบไปทั่วโลก โดยทางการไทยได้ส่งรายละเอียดให้คณะทำงานไทยและจีน ที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ หากมีรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมก็ให้ส่งมายังคณะทำงานได้ ทั้งนี้หากมีโอกาสได้เจอกับประธานาธิบดีจีนและนายกรัฐมนตรีจีนอีก ก็จะมีการคุยความคืบหน้าในเรื่องนี้อีกตามกรอบที่ตกลงกันไว้
เมื่อถามว่าหลังจากมีการตัดไฟ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการดำเนินการอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องดูเรื่องตัวเลขว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง ลดได้แค่ไหน ประชาชนมีการตอบรับอย่างไร เพราะการทำสิ่งเหล่านี้คือการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและป้องกันภัยอันตรายจากเรื่องพวกนี้
เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนชาวเมืองเมียวดีประเทศเมียนมา ออกมาประท้วงประเทศไทยในการตัดไฟ จะรับมืออย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "อย่างที่บอกเราต้องดูแลคนของเรา เพราะดิฉันเป็นนายกฯของประเทศไทย ก็ต้องดูแลประเทศไทยก่อน คิดว่าทางนั้นเขาก็ต้องดูแลคนในประเทศของเขาเช่นกัน ทุกประเทศต้องดูแลคนของตัวเอง"
เมื่อถามว่าแต่ทางเมียนมาออกมาต่อต้านการซื้อสิ้นค้าจากประเทศไทย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลกับรัฐบาลจะพูดคุยกันในรายละเอียด
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่บริเวณ ตึก 25 ชั้นที่ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจะมีการถอนสัญชาติไทยนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในรายละเอียดสามารถทำได้อีกเยอะ สิ่งที่นายทักษิณ พูดก็เป็นข้อแนะนำ ทั้งนี้ตนมีภารกิจจะไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็จะนำเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ไปพูดคุยด้วย