จากกรณีเมื่อ 2-3 วันก่อน ปรากฎภาพหลุดออกมา พร้อมกระแสข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้มีการนัดหมาย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พยานปากเอกในคดีชั้น 14 ไปไต่สวนเผชิญสืบหรือไปชี้จุดที่โรงพยาบาลตำรวจ
ล่าสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวี บอกว่า ภาพที่ปรากฏออกมาเป็นของจริง คือมีการไปชี้จุดที่โรงพยาบาลตำรวจ ประกอบคำให้การที่ให้ไว้กับ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้นั้น
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า ขอตำหนิตั้งแต่การนัดหมายของ ป.ป.ช. ซึ่งจู่ๆ ก็ส่งจดหมายลงวันที่นัดคือ 7 มี.ค. 2568 เวลา 11.00 น. โดยไม่มีการถามล่วงหน้าว่าวันและเวลาดังกล่าวสะดวกหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้วตัวเองมีนัดต้องไปขึ้นศาล โชคดีที่มีการเลื่อนออกไปจึงสามารถไปตามนัดหมายของทาง ปปช.ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อธิบายให้ฟังในรายละเอียดว่า การชี้จุดเริ่มตั้งแต่ชั้นใต้ดินที่ไปจอดรถ โดยมีคนของนายทักษิณมารับและพาเดินไปพบกับนายทักษิณที่ชั้น 14 ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยชื่อบุคคลดังกล่าว กับทีมข่าวพีพีทีวีแล้ว ซึ่งบุคคลคนนี้เป็นคนเดียวกันกับในแชทไลน์นัดหมาย ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยนำมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ นั่นคือ ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ ทีมอารักขาของนายทักษิณ ซึ่งเรามักจะเห็นบุคคลดังกล่าวปรากฏตัวยืนประกบนายทักษิณทุกการลงพื้นที่หาเสียงก่อนหน้านี้
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังบอกด้วยว่า หลังจากจอดรถที่ชั้นใต้ดิน ร.ท.ธวัชชัยจะเป็นคนเดินมารับพาไปขึ้นลิฟต์ แต่เข้าลิฟต์นั้นออกลิฟต์หลายรอบ และไปจอดอยู่ที่ชั้น 12 หรือ 13 แล้วก็พาขึ้นบันไดหนีไฟไปชั้น 14 เพื่อไปยังห้องรับรองของนายทักษิณ
และนอกจากเปิดเผยชื่อบุคคลปริศนาที่เป็นคนพาขึ้นไปพบกับนายทักษิณที่ชั้น 14 แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ชั้น 14 จะมีห้องหลักๆอยู่สองห้อง คือห้องที่อยู่ทางซ้ายกับห้องที่อยู่ทางขวาและแต่ละห้องก็จะซอยเป็นสองห้อง (ห้องผู้ป่วย กับห้องรับแขก) ซึ่งนายทักษิณจะพักรักษาตัวอยู่ห้องทางซ้ายมือเป็นหลัก
แต่ครั้งแรกที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปถึง ถูกพาตัวไปที่ห้องทางด้านขวามือ ซึ่งถูกใช้เป็นห้องรับรอง ก่อนที่นายทักษิณจะเดินเข้ามาหาในชุดสบายๆไม่ใช่ชุดผู้ป่วย แต่น่าสนใจว่าในห้องดังกล่าวไม่ได้มีแค่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ยังมีทีมแม่ครัวที่คอยจัดแจงอาหารว่างอยู่ด้วย ซึ่งจำได้ดีว่าทีมแม่ครัวทีมนี้ คือทีมเดียวกับที่เคยไปเจอที่ปักกิ่ง หมายความว่าที่ชั้น 14 มีทีมแม่ครัวหรือแม่บ้านส่วนตัวของนายทักษิณอยู่ด้วย
ส่วนเรื่องการไปชี้จุดที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า ก็ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะห้องมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม อาจจะมีโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกขยับ แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร แต่จุดที่ผิดปกติจริงๆ อยู่ตรงที่ ตนได้เข้าไปชี้จุดแค่เพียงห้องทางขวามือ แต่ห้องทางซ้ายมือซึ่งเป็นห้องที่นายทักษิณเคยพักรักษาตัวนั้น โรงพยาบาลตำรวจบอกว่าเข้าไปไม่ได้เพราะตอนนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในห้องดังกล่าว คำถามก็คือ ป.ป.ช. เมื่อมีการนัดหมายก็ควรจะต้องพร้อมกันทุกฝ่าย แต่นี่กลับไม่ได้เข้าไป ทั้งที่เป็นห้องสำคัญที่ควรจะต้องเข้าไปด้วย ทั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นความบกพร่องที่เจ้าหน้าที่ไม่รอบคอบ หรือเป็นความผิดปกติอย่างไรก็ลองให้ประชาชนตัดสินเอาเอง ซึ่งในฐานะที่เป็นตำรวจเก่า การเข้าไปดูจุดเกิดเหตุโดยเร็วถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ก็ยังไม่ได้บอกว่า หลังจากนี้จะมีการนัดหมายเข้าไปชี้จุดอีกหรือไม่
ส่วนกรณีศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีประเด็นเรื่องชั้น 14 อยู่ด้วยนั้น ทีมข่าวจึงถามต่อว่าได้มีการส่งมอบข้อมูลให้ฝ่ายค้านหมดหรือยังและจะให้หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่าพรรคเสรีรวมไทยก็เป็นพรรคฝ่ายค้านเหมือนกัน แต่พรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านกลับไม่เคยพูดซักคำว่าจะแบ่งเวลาซักฟอกมาให้ จะหวังแต่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ได้ อยากจะได้ข้อมูลก็ควรจะต้องมาแบ่งเวลาให้กันบ้าง ค่อยมาเจรจากัน แต่ที่ผ่านมาทางพรรคประชาชนก็ยังไม่ได้ติดต่อมา