เวลา 22.40 น. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ตนไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้ในฐานะเป็นต้นตอความล้มเหลวของการปฏิรูปการเมืองและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ทั้งที่นายกฯเคยแถลงนโยบายต่อสภาเรื่องประชาธิปไตยที่กินได้ ซึ่งนอกจากนายกฯจะสอบตกเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังสอบตกเรื่องการยกระดับประชาธิปไตย ทั้งที่ในการเลือกตั้งปี 2566 ประชาชนเลือกพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นเพื่อหวังเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
การบริหารประเทศและการบริหารการเมืองของรัฐบาลแพทองธาร เป็นเหมือนละครเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะมุ่งสู่ความพังพินาศของการเมืองไทย โดยมีการตั้งรัฐบาลโดยอ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งจุดจบของการปฏิรูปการเมืองถูกกำหนดไว้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของรัฐบาลนี้ นอกจากนั้นปากอย่างใจอย่าง ที่นายกฯเสแสร้งว่าอยากปฏิรูปการเมืองแต่ไม่เคยทำให้เห็น โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่างกับการผลักดันเรื่องกาสิโนอย่างจริงจัง แต่พอนโยบายไหนที่ไม่อยากทำก็โยนบาปให้กับพรรคร่วมรัฐบาล
นอกจากนั้นยังมีการบั่นทอนกลไกประชาธิปไตยและการเมืองในระบบรัฐสภาให้อ่อนแอลง ฝ่ายบริหารกลายเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ที่ต้องรอฟังเสียงากนายกฯคนพ่อ หลายเรื่องต้องรอนายกฯคนพ่อพูดก่อน นายกฯคนลูก ถึงจะออกมาพูดรับลูก ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับงานสภาเหมือนงานการกุศล โดยมีการตั้งกระทู้ถามสดหลายครั้ง แต่นายกฯกลับไม่เคยมาตอบกระทู้ถามสดในสภา มีการมาตอบกระทู้ถามของพรรคร่วมรัฐบาลเพียงครั้งเดียว นอกจากนั้นไม่สนใจกระจายอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งที่ตอนเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลับให้ความสำคัญถึงขนาดให้พ่อลงไปหาเสียง เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกฯยัง มีพฤติกรรมปราบโกงพอเป็นพิธี ปล่อยปละปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน นายกฯไม่เคยพูดถึงการแก้ปัญหาการทุจริตแม้แต่ครั้งเดียว และยังเอาเรื่องการปราบโกงเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ในจังหวะที่แบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว มีปัญหาระบอบอุปถัมภ์ มีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยเฉพาะในภาคพลังงาน นอกจากนั้นอาจจะมีการส่งออกการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องนอกประเทศ โดยรัฐบาลได้หลวมตัวรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดกับบริษัทกาสิโนต่างชาติ เพื่อนำมาจัดงานเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่านายกฯจะไม่ตอบแทนบริษัทดังกล่าวเมื่อนายกฯมีอำนาจชี้ขาดว่าใครจะได้ใบอนุญาติกาสิโนในไทยหรือไม่